DiaryTravelJapan
Japan Trip 2016 : Ep12 ภารกิจชมซากุระที่ Funaoka Castle Ruin Park
ออกเดินทางจากนครหลวงโตเกียวไปยังเซนได เมืองใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุด้วยรถไฟชินคันเซ็น เพิ่มเติมคืออาหารที่ทานในวันนั้นทั้งเอคิเบ็นกับมื้อเย็นมื้อแรกที่เซนได อร่อยโฮกกกก ><~
เข้าสู่เช้าวันพุธที่ 13 เมษายน 2559 วันที่ 6 ของการเดินทางทริปนี้ พวกเราทุกคนยังอยู่ที่เมืองเซนไดค่ะ ซึ่งปกติแล้วถ้าเป็นวันนี้ของทุกๆ ปี พวกเราก็มักจะอยู่กันกับครอบครัวหรือออกไปเที่ยวสาดน้ำกับเพื่อนๆ เนื่องในวันสงกรานต์กันล่ะนะ แต่ปีนี้พิเศษนิดนึง เพราะพวกเราไม่ได้อยู่เมืองไทยจ้าา ดังนั้นเลยไม่ได้สาดน้ำ หากแต่เลือกที่จะไป "ชมซากุระ" แทนเน่อออ ว่าแล้วก็ขอเอาภาพดอกซากุระมาเรียกน้ำย่อยหน่อยนึงนะ ^^
เดิมทีตอนแรกที่แพลนก็กะว่าวันนี้จะขึ้นรถบัสเที่ยวรอบเมืองแหละ แล้วค่อยไปทำภารกิจชมซากุระในวันถัดไป แต่หลังจากที่ได้เช็คพยากรณ์อากาศเป็นระยะๆ ก็พบว่าแถวเซนไดจะมีฝนตกในวันดังกล่าว จึงตัดสินใจสลับแพลนให้วันทำภารกิจชมซากุระขึ้นมาอยู่วันนี้แทนจ้า ><"
ในเช้าวันที่ 13 เมษายน พวกเราเริ่มต้นภารกิจในวันนี้ด้วยการทานอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งก็มีทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารตะวันตกให้เลือกทาน แต่ที่ดูแปลกตาซักหน่อยก็คือ ที่โรงแรมที่พวกเราพักอยู่มีเมนู "ซุนดะโมจิ" ที่เขาตักเอาลูกโมจิญี่ปุ่นกลมๆ แล้วราดด้วยถั่วแระญี่ปุ่นบด รสชาติก็หวานกำลังดี แน่นอนว่าอร่อยด้วยนะ ^^

ระหว่างที่พวกเราทานข้าวอยู่ ก็ได้เจอคุณลุงคุณป้าคนไทยที่มาพักโรงแรมนี้ด้วย ก็ได้มีการพูดคุยสนทนากันพอสมควรค่ะ แฮปปี้~~
จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางจากโรงแรมด้วยการเดินเท้าไปยังสถานี JR Sendai เพื่อนั่งรถไฟสาย Tohoku ไปลงที่สถานี Funaoka ซึ่งตอนนั้นอิชั้นแอบพาเพื่อนร่วมทริปหลงไปยังอีกชานชาลาหนึ่งที่ตอนเช้าวันนั้นเด็กนักเรียนเยอะโฮกกกกก แบบว่ามันเป็นช่วงเช้าวันธรรมดาด้วยนี่นะ 5555 แต่ก็เกือบไปแล้วจริงๆ ไม่งั้นล่ะได้ถึงที่หมายช้ากว่าที่กำหนดแน่ๆ ^^"

และนี่ก็คือหน้าตาแบบรถไฟที่ได้ขึ้นนะ จริงๆ ไม่ได้ขึ้นขบวนนี้หรอก เพราะมันเป็นขบวนก่อนหน้าที่เราจะขึ้น แต่หน้าตาประมาณนี้แล =..=
หลังจากที่พวกเรานั่งรถไฟได้ประมาณครึ่ง ชม. ในที่สุดก็ถึงสถานี Funaoka จ้าา เย่ๆๆๆ พอลงจากขบวนรถก็เจอป้ายสถานีนี้เลย ภาพซากุระริมแม่น้ำชิโรอิชิเด่นมากๆ ^o^

จากนั้นพวกเราก็เดินต่อจากสถานีไปยัง Funaoka Castle Ruin Park ซึ่งค่อนข้างไกลอยู่พอสมควร โดยระหว่างทาง พวกเราก็อาศัยแผนที่ที่มีแจกในสถานีและป้ายบอกทางที่มีอยู่เป็นระยะๆ จึงทำให้ไม่หลงค่ะ เพิ่มเติมคือทุกคนโดนร้านขนมปังดึงดูดไปหลาย ea จนได้เสบียงมาทานเรียบร้อย 555

หลังจากที่เดินไปได้ซักพัก ในที่สุดก็มาถึงทางเข้าสวน Funaoka Castle Ruin Park จนได้ ซึ่งทางเดินก็ชันได้โล่เลยล่ะ แต่เพื่อวิวสวยๆ ที่อยู่ข้างบน พวกเรายอมมมมม ><~

พวกเราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณลานกว้าง ซึ่งตรงบริเวณนั้นก็มีจุดขายอาหาร ที่นั่งทานอาหาร และเวทีการแสดงด้วย งานนี้พวกเราก็เลยได้นั่งพักกันเล็กน้อยพร้อมกับทานอาหารทั้งที่ซื้อจากร้านขนมปังและจากที่ซื้อตรงจุดจำหน่ายอาหาร อยากบอกว่า ฟินนนนมากกกกก ถึงแม้ว่าช่วงที่มานี้จะพ้นช่วงฟูลบลูมไปแล้วก็ตาม แต่อยากจะบอกว่า ถ้าได้เจอลมพัดเย็นๆ พร้อมกับกลีบดอกซากุระที่ปลิวไปตามลมนะ คุณเอ๊ยยย มันช่างฟินยิ่งกว่าหลายเท่ายิ่งนัก!! >w<



พอทานอาหารเสร็จ ก็มาถึงอีกภารกิจหนึ่งที่พวกเราตั้งใจจะต้องมาพิชิตให้ได้ก็คือ การนั่ง Slope Car เพื่อชมอุโมงค์ซากุระค่ะ ซึ่งเราต้องไปซื้อตั๋วก่อนแล้วถึงค่อยต่อแถวขึ้น Slope Car อีกที ขอบอกว่าในวันนั้น แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็มีคนเดินทางมาที่นี่กันเป็นจำนวนมากเลยล่ะ

ก็ใช้เวลาพอสมควรในการต่อแถวเหมือนกันกว่าจะได้ขึ้นรถ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นั่งแถวหน้าสุด แต่ก็ได้วิวดีๆ มานะ =..=

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน หลังจากที่พากันเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จ ก็พากันเดินไปยังบริเวณที่เป้นที่ตั้งของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ขอบอกว่า ไม่ผิดหวังที่ได้มาที่นี่จริงๆ วิวเขาดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวตัวเมืองที่เห็นจนถึงซากุระริมแม่น้ำที่เรียงรายเป็นทิวแถว รวมไปถึงการได้นั่งพักทานอาหารที่มีจำหน่ายด้านบนและขนม Hagi no Tsuki ขนมขึ้นชื่อของเมืองเซนไดที่ซื้อขึ้นมาทานพร้อมกับชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมและซากุระไปด้วย ^^


หลังจากที่ได้ฟินกันถ้วนหน้าแล้ว พวกเราก็เดินเล่นในสวนดอกไม้อีกเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับลงมายังด้านล่าง ซึ่งเมื่อกลับมาถึงฝั่งด้านล่างแล้ว พวกเราก็ไม่ลืมที่จะรีบวิ่งไปยังจุดถ่ายรูป Slope Car ที่กำลังแล่นท่ามกลางซากุระอันเลื่องชื่อ

จากนั้นพวกเราก็พากันเดินลัดเลาะตามทางเรื่อยๆ เพื่อออกไปยังบริเวณริมแม่น้ำชิโรอิชิ แต่ในระหว่างทางก็ได้เจอกับเจ้ามาสคอตประจำท้องถิ่นด้วย รอช้าอยู่ไย เข้าไปถ่ายรูปด้วยสิยะ ><

พวกเราเองใช้เวลาเดินกันนานพอสมควรเลยค่ะ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล อีกทั้งแต่ละคนก็เริ่มปวดเท้ากันไปตามๆ กัน จึงต้องค่อยๆ เดินเอา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถเดินมาถึงที่หมายจนได้ จากนั้นก็แชะภาพเล่นกันยาวๆ ไปค่ะ ^^




เมื่อข้ามมายังฝั่งริมแม่น้ำชิโรอิชิ พวกเราก็ตั้งใจที่จะเดินกลับไปยังสถานี Funaoka ล่ะค่ะ แต่เมื่อได้เห็นป้ายบอกระยะทางที่ระบุบนก้อนหินแล้วว ทำได้อย่างเดียว "เดินวนไปค่ะ!!" T-T

ถึงจะต้องเดินขาลาก แต่ระหว่างทางนั้นพวกเราก็ได้มองเห็นซากุระสวยๆ รวมถึงบรรยากาศรอบข้างที่แสนอบอุ่นด้วยล่ะค่ะ ช่างดีงามจริงๆ ^^



พวกเราเดินกันจนมาถึงสถานี Funaoka เวลาก็เริ่มล่วงเลยไปประมาณบ่ายสองถึงสามกว่าๆ แล้ว พอรถไฟมาก็ขึ้นรถไฟกลับไปสถานีเซนไดเลย
หลังจากที่เดินทางมาถึงแล้ว ก็เป็นเวลาฟรีไทม์ ใครที่มีเป้าหมายหรืออยากทำอะไรก็จัดได้เลยเต็มที่ ซึ่งทางนะเองก็ไปต่อกับพี่ใหญ่ประจำกลุ่มทริป เพราะว่ามีภารกิจที่ยังต้องพิชิตอยู่ค่ะ กับภารกิจกิน "ลิ้นวัวย่าง" หรือ "กิวตัง"แต่เนื่องจากว่าในกลุ่มพวกนะมีคนที่ไม่ทานเนื้อ เลยขอแยกตัวออกมาพร้อมกับพี่ใหญ่ ซึ่งร้านที่เลือกทานนี้มีชื่อว่า "Rikyu" ที่อยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารสถานีเซนได โดยร้านนี้มีเพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำมาด้วยล่ะค่ะว่าถ้ามาเซนไดแล้วห้ามพลาด ต้องทานให้ได้! งานนี้ก็เลยจัดไปกับชุดข้าวหน้าลิ้นวัวย่างเลย รสชาติอร่อยมากกก >w<

และหลังจากนั้นก็ได้แวะซื้อของฝาก รวมถึงได้แวะลองทานเมนูเครื่องดื่มใหม่ของ Starbucks กับ "Cantaloupe Melon & Cream Frappucino" ซึ่งวันที่พวกนะไปนั้นก็เป็นวันแรกที่ทางสตาร์บัคส์ญี่ปุ่นเพิ่งออกวางจำหน่ายด้วย เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ กับการที่ได้ไปญี่ปุ่นแล้วได้ลองทานเครื่องดื่มของ Starbucks แบบที่มีขายในระยะเวลาจำกัดถึง 2 เมนู (เอาจริงๆ ปกติตอนอยู่ไทยนี่แทบไม่ได้ทาน Starbucks เลยนะเนี่ย แต่พอมาญี่ปุ่นนี่เข้า Starbucks ถึงสามครั้งด้วยกัน 5555)


ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แถมโคตรฟินมากๆ ถึงแม้ว่าจะแลกมาด้วยอาการปวดเท้าจากการเดินหนักๆ ก็ตาม... 5555 แต่ก็ถือว่าคุ้มนะ ^^
ตอนหน้า... จากที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นๆ ของเอนทรี่นี้แล้วว่าตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งรถบัสเที่ยวรอบเมืองก่อน แต่สุดท้ายได้มีการสลับแพลนขึ้น ตอนหน้าเราจะมาเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการนั่งรถบัสรอบเมืองเซนไดที่มีชื่อว่า "Loople Bus" บ้าง ส่วนจะเป็นอย่างไร ไว้มาตามกันต่อคราวหน้านะ ><
ปล. อย่าลืมติดตามอ่านบันทึกของคุณเพื่อนร่วมทริปด้วยนะ ล่าสุด เจ้าตัวอัพไปถึงตอนที่ 8 แล้ว ซึ่งเล่าเรื่องราวถึงตอนที่ไปชมซากุระที่ฟุนาโอกะเหมือนกันเลยย หุหุหุ~~
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก by hades072
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 1 แค่วันแรกก็เหนื่อยแล้ว!!
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 2 แปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 3 ดูวิวฟูจิ ณ เจดีย์ห้าชั้น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 4 ภารกิจติ่งๆ ภาคโหมโรง
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 5 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part I
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 6 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part II
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 7 เที่ยวนอกโตเกียว...มุ่งหน้าสู่เซนได
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 8 เที่ยวนอกโตเกียว...นั่งรถรางดูซากุระที่ฟุนาโอกะ
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip 2016 ย้อนหลัง
Japan Trip 2016 : Ep01 การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
Japan Trip 2016 : Ep02 มุ่งสู่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น
Japan Trip 2016 : Ep03 เดินชมวิวยามเช้าที่อาซาคุสะ
Japan Trip 2016 : Ep04 เช่ากิโมโนใส่เดินเล่นที่วัดเซนโซจิและริมแม่น้ำสุมิดะ
Japan Trip 2016 : Ep05 ฟินๆ กับถิ่นกำเนิดของสาวๆ วง AKB48
Japan Trip 2016 : Ep06 ชมซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่ Chureito Pagoda
Japan Trip 2016 : Ep07 แวะศาลเจ้าเมจิ โอโมเตะซันโด และชิบุยะ
Japan Trip 2016 : Ep08 Gotokuji วัดนี้มีแต่แมวนางกวัก /ᐠ ._. ᐟ\ノ
Japan Trip 2016 : Ep09 ฟินสุดติ่งที่ Fujiko·F·Fujio Museum
Japan Trip 2016 : Ep10 นัดเจอเพื่อนคนไทยในโตเกียว
Japan Trip 2016 : Ep11 ทานข้าวกล่อง Ekiben บนรถไฟชินคันเซ็น
ナナ~♪
ในเช้าวันที่ 13 เมษายน พวกเราเริ่มต้นภารกิจในวันนี้ด้วยการทานอาหารเช้าของโรงแรม ซึ่งก็มีทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารตะวันตกให้เลือกทาน แต่ที่ดูแปลกตาซักหน่อยก็คือ ที่โรงแรมที่พวกเราพักอยู่มีเมนู "ซุนดะโมจิ" ที่เขาตักเอาลูกโมจิญี่ปุ่นกลมๆ แล้วราดด้วยถั่วแระญี่ปุ่นบด รสชาติก็หวานกำลังดี แน่นอนว่าอร่อยด้วยนะ ^^
ระหว่างที่พวกเราทานข้าวอยู่ ก็ได้เจอคุณลุงคุณป้าคนไทยที่มาพักโรงแรมนี้ด้วย ก็ได้มีการพูดคุยสนทนากันพอสมควรค่ะ แฮปปี้~~
จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางจากโรงแรมด้วยการเดินเท้าไปยังสถานี JR Sendai เพื่อนั่งรถไฟสาย Tohoku ไปลงที่สถานี Funaoka ซึ่งตอนนั้นอิชั้นแอบพาเพื่อนร่วมทริปหลงไปยังอีกชานชาลาหนึ่งที่ตอนเช้าวันนั้นเด็กนักเรียนเยอะโฮกกกกก แบบว่ามันเป็นช่วงเช้าวันธรรมดาด้วยนี่นะ 5555 แต่ก็เกือบไปแล้วจริงๆ ไม่งั้นล่ะได้ถึงที่หมายช้ากว่าที่กำหนดแน่ๆ ^^"
และนี่ก็คือหน้าตาแบบรถไฟที่ได้ขึ้นนะ จริงๆ ไม่ได้ขึ้นขบวนนี้หรอก เพราะมันเป็นขบวนก่อนหน้าที่เราจะขึ้น แต่หน้าตาประมาณนี้แล =..=
หลังจากที่พวกเรานั่งรถไฟได้ประมาณครึ่ง ชม. ในที่สุดก็ถึงสถานี Funaoka จ้าา เย่ๆๆๆ พอลงจากขบวนรถก็เจอป้ายสถานีนี้เลย ภาพซากุระริมแม่น้ำชิโรอิชิเด่นมากๆ ^o^
จากนั้นพวกเราก็เดินต่อจากสถานีไปยัง Funaoka Castle Ruin Park ซึ่งค่อนข้างไกลอยู่พอสมควร โดยระหว่างทาง พวกเราก็อาศัยแผนที่ที่มีแจกในสถานีและป้ายบอกทางที่มีอยู่เป็นระยะๆ จึงทำให้ไม่หลงค่ะ เพิ่มเติมคือทุกคนโดนร้านขนมปังดึงดูดไปหลาย ea จนได้เสบียงมาทานเรียบร้อย 555
หลังจากที่เดินไปได้ซักพัก ในที่สุดก็มาถึงทางเข้าสวน Funaoka Castle Ruin Park จนได้ ซึ่งทางเดินก็ชันได้โล่เลยล่ะ แต่เพื่อวิวสวยๆ ที่อยู่ข้างบน พวกเรายอมมมมม ><~
พวกเราก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณลานกว้าง ซึ่งตรงบริเวณนั้นก็มีจุดขายอาหาร ที่นั่งทานอาหาร และเวทีการแสดงด้วย งานนี้พวกเราก็เลยได้นั่งพักกันเล็กน้อยพร้อมกับทานอาหารทั้งที่ซื้อจากร้านขนมปังและจากที่ซื้อตรงจุดจำหน่ายอาหาร อยากบอกว่า ฟินนนนมากกกกก ถึงแม้ว่าช่วงที่มานี้จะพ้นช่วงฟูลบลูมไปแล้วก็ตาม แต่อยากจะบอกว่า ถ้าได้เจอลมพัดเย็นๆ พร้อมกับกลีบดอกซากุระที่ปลิวไปตามลมนะ คุณเอ๊ยยย มันช่างฟินยิ่งกว่าหลายเท่ายิ่งนัก!! >w<
พอทานอาหารเสร็จ ก็มาถึงอีกภารกิจหนึ่งที่พวกเราตั้งใจจะต้องมาพิชิตให้ได้ก็คือ การนั่ง Slope Car เพื่อชมอุโมงค์ซากุระค่ะ ซึ่งเราต้องไปซื้อตั๋วก่อนแล้วถึงค่อยต่อแถวขึ้น Slope Car อีกที ขอบอกว่าในวันนั้น แม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ก็มีคนเดินทางมาที่นี่กันเป็นจำนวนมากเลยล่ะ
ก็ใช้เวลาพอสมควรในการต่อแถวเหมือนกันกว่าจะได้ขึ้นรถ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้นั่งแถวหน้าสุด แต่ก็ได้วิวดีๆ มานะ =..=
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน หลังจากที่พากันเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จ ก็พากันเดินไปยังบริเวณที่เป้นที่ตั้งของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ขอบอกว่า ไม่ผิดหวังที่ได้มาที่นี่จริงๆ วิวเขาดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวตัวเมืองที่เห็นจนถึงซากุระริมแม่น้ำที่เรียงรายเป็นทิวแถว รวมไปถึงการได้นั่งพักทานอาหารที่มีจำหน่ายด้านบนและขนม Hagi no Tsuki ขนมขึ้นชื่อของเมืองเซนไดที่ซื้อขึ้นมาทานพร้อมกับชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมและซากุระไปด้วย ^^
หลังจากที่ได้ฟินกันถ้วนหน้าแล้ว พวกเราก็เดินเล่นในสวนดอกไม้อีกเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับลงมายังด้านล่าง ซึ่งเมื่อกลับมาถึงฝั่งด้านล่างแล้ว พวกเราก็ไม่ลืมที่จะรีบวิ่งไปยังจุดถ่ายรูป Slope Car ที่กำลังแล่นท่ามกลางซากุระอันเลื่องชื่อ
จากนั้นพวกเราก็พากันเดินลัดเลาะตามทางเรื่อยๆ เพื่อออกไปยังบริเวณริมแม่น้ำชิโรอิชิ แต่ในระหว่างทางก็ได้เจอกับเจ้ามาสคอตประจำท้องถิ่นด้วย รอช้าอยู่ไย เข้าไปถ่ายรูปด้วยสิยะ ><
พวกเราเองใช้เวลาเดินกันนานพอสมควรเลยค่ะ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล อีกทั้งแต่ละคนก็เริ่มปวดเท้ากันไปตามๆ กัน จึงต้องค่อยๆ เดินเอา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็สามารถเดินมาถึงที่หมายจนได้ จากนั้นก็แชะภาพเล่นกันยาวๆ ไปค่ะ ^^
เมื่อข้ามมายังฝั่งริมแม่น้ำชิโรอิชิ พวกเราก็ตั้งใจที่จะเดินกลับไปยังสถานี Funaoka ล่ะค่ะ แต่เมื่อได้เห็นป้ายบอกระยะทางที่ระบุบนก้อนหินแล้วว ทำได้อย่างเดียว "เดินวนไปค่ะ!!" T-T
ถึงจะต้องเดินขาลาก แต่ระหว่างทางนั้นพวกเราก็ได้มองเห็นซากุระสวยๆ รวมถึงบรรยากาศรอบข้างที่แสนอบอุ่นด้วยล่ะค่ะ ช่างดีงามจริงๆ ^^
พวกเราเดินกันจนมาถึงสถานี Funaoka เวลาก็เริ่มล่วงเลยไปประมาณบ่ายสองถึงสามกว่าๆ แล้ว พอรถไฟมาก็ขึ้นรถไฟกลับไปสถานีเซนไดเลย
หลังจากที่เดินทางมาถึงแล้ว ก็เป็นเวลาฟรีไทม์ ใครที่มีเป้าหมายหรืออยากทำอะไรก็จัดได้เลยเต็มที่ ซึ่งทางนะเองก็ไปต่อกับพี่ใหญ่ประจำกลุ่มทริป เพราะว่ามีภารกิจที่ยังต้องพิชิตอยู่ค่ะ กับภารกิจกิน "ลิ้นวัวย่าง" หรือ "กิวตัง"แต่เนื่องจากว่าในกลุ่มพวกนะมีคนที่ไม่ทานเนื้อ เลยขอแยกตัวออกมาพร้อมกับพี่ใหญ่ ซึ่งร้านที่เลือกทานนี้มีชื่อว่า "Rikyu" ที่อยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคารสถานีเซนได โดยร้านนี้มีเพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำมาด้วยล่ะค่ะว่าถ้ามาเซนไดแล้วห้ามพลาด ต้องทานให้ได้! งานนี้ก็เลยจัดไปกับชุดข้าวหน้าลิ้นวัวย่างเลย รสชาติอร่อยมากกก >w<
และหลังจากนั้นก็ได้แวะซื้อของฝาก รวมถึงได้แวะลองทานเมนูเครื่องดื่มใหม่ของ Starbucks กับ "Cantaloupe Melon & Cream Frappucino" ซึ่งวันที่พวกนะไปนั้นก็เป็นวันแรกที่ทางสตาร์บัคส์ญี่ปุ่นเพิ่งออกวางจำหน่ายด้วย เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ กับการที่ได้ไปญี่ปุ่นแล้วได้ลองทานเครื่องดื่มของ Starbucks แบบที่มีขายในระยะเวลาจำกัดถึง 2 เมนู (เอาจริงๆ ปกติตอนอยู่ไทยนี่แทบไม่ได้ทาน Starbucks เลยนะเนี่ย แต่พอมาญี่ปุ่นนี่เข้า Starbucks ถึงสามครั้งด้วยกัน 5555)
ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แถมโคตรฟินมากๆ ถึงแม้ว่าจะแลกมาด้วยอาการปวดเท้าจากการเดินหนักๆ ก็ตาม... 5555 แต่ก็ถือว่าคุ้มนะ ^^
ตอนหน้า... จากที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นๆ ของเอนทรี่นี้แล้วว่าตอนแรกตั้งใจว่าจะนั่งรถบัสเที่ยวรอบเมืองก่อน แต่สุดท้ายได้มีการสลับแพลนขึ้น ตอนหน้าเราจะมาเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการนั่งรถบัสรอบเมืองเซนไดที่มีชื่อว่า "Loople Bus" บ้าง ส่วนจะเป็นอย่างไร ไว้มาตามกันต่อคราวหน้านะ ><
ปล. อย่าลืมติดตามอ่านบันทึกของคุณเพื่อนร่วมทริปด้วยนะ ล่าสุด เจ้าตัวอัพไปถึงตอนที่ 8 แล้ว ซึ่งเล่าเรื่องราวถึงตอนที่ไปชมซากุระที่ฟุนาโอกะเหมือนกันเลยย หุหุหุ~~
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก by hades072
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 1 แค่วันแรกก็เหนื่อยแล้ว!!
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 2 แปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 3 ดูวิวฟูจิ ณ เจดีย์ห้าชั้น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 4 ภารกิจติ่งๆ ภาคโหมโรง
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 5 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part I
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 6 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part II
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 7 เที่ยวนอกโตเกียว...มุ่งหน้าสู่เซนได
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 8 เที่ยวนอกโตเกียว...นั่งรถรางดูซากุระที่ฟุนาโอกะ
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip 2016 ย้อนหลัง
Japan Trip 2016 : Ep01 การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
Japan Trip 2016 : Ep02 มุ่งสู่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น
Japan Trip 2016 : Ep03 เดินชมวิวยามเช้าที่อาซาคุสะ
Japan Trip 2016 : Ep04 เช่ากิโมโนใส่เดินเล่นที่วัดเซนโซจิและริมแม่น้ำสุมิดะ
Japan Trip 2016 : Ep05 ฟินๆ กับถิ่นกำเนิดของสาวๆ วง AKB48
Japan Trip 2016 : Ep06 ชมซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่ Chureito Pagoda
Japan Trip 2016 : Ep07 แวะศาลเจ้าเมจิ โอโมเตะซันโด และชิบุยะ
Japan Trip 2016 : Ep08 Gotokuji วัดนี้มีแต่แมวนางกวัก /ᐠ ._. ᐟ\ノ
Japan Trip 2016 : Ep09 ฟินสุดติ่งที่ Fujiko·F·Fujio Museum
Japan Trip 2016 : Ep10 นัดเจอเพื่อนคนไทยในโตเกียว
Japan Trip 2016 : Ep11 ทานข้าวกล่อง Ekiben บนรถไฟชินคันเซ็น
ナナ~♪