DiaryTravelJapan
Japan Trip 2016 : Ep11 ทานข้าวกล่อง Ekiben บนรถไฟชินคันเซ็น
ได้ฟินกับประสบการณ์การออกเดินทางไปเที่ยวตามลำพัง พร้อมทั้งยังได้นัดเจอกับเพื่อนคนไทยที่มาเรียนที่ญี่ปุ่นด้วย สนุกสุดๆ เล้ยยย!!
รายละเอียด สามารถตามอ่านได้ในตอนที่ 8-10 จ้า ^^
เข้าสู่วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559 วันที่ 5 ของทริปนี้แล้ว ซึ่งวันนี้พวกเราก็ได้เตรียมบอกลาโตเกียวเพื่อเดินทางไปยัง "เมืองเซนได" จังหวัดมิยางิ อีกหนึ่งเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นในภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่นนั่นเองจ้า
หลังจากที่พวกเราทานมื้อเช้าในที่พัก พร้อมทั้งเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำการเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก เพื่อเดินทางออกจากโตเกียว แน่นอนว่าพวกเราต้องลากสัมภาระไปกันด้วย โดยเฉพาะตัวอิชั้นเองที่ต้องลากกระเป๋าล้อแตกสองข้างต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ... ฮือออ T T
พวกเรานั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีอาซาคุสะมาลงที่สถานีอุเอโนะ จากนั้นก็เข้าสู่ระบบเพื่อเตรียมตัวนั่งรถไฟชินคันเซ็นรอบ 12.26 น. จากสถานีอุเอโนะไปยังสถานีเซนได
หลังจากที่โชว์ JR East Pass ให้ทางเจ้าหน้าที่แล้ว ก็เข้าสู่ระบบภายในสถานี ซึ่งพอเข้ามาปุ๊บ ก็เจอร้านขายข้าวกล่อง Ekiben เลยจ้าาา เนื่องจากเวลามีเหลือเฟือ แต่ละคนเลยซื้อเสบียงอาหารมาตุนโดยพร้อมเพรียงกัน
Ekiben (เอคิเบ็น) ก็คือ ข้าวกล่องที่เอาไว้ทานตอนอยู่บนรถไฟ ซึ่งตามสถานีใหญ่ๆ ก็มักจะมีขายกันอยู่แล้ว ส่วนตัวเมนูอาหารนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายตามภูมิภาคเลย ทั้งข้าวหน้าเนื้อ จิราชิซูชิ และอื่นๆ ซึ่งหน้าตาน่ารับประทานมากๆ เลยล่ะ ^^
สำหรับข้าวกล่อง Ekiben ที่จะเอามาให้ได้ชมกันนั้น ขอเลือกเอามาให้ดู 2 แบบนะ โดยแบบแรกเป็นข้าวกล่องที่ทำออกมาเพื่อต้อนรับการมาของ Hokkaido Shinkansen กับ "Hokkaido Shinkansen Bento"
"Hokkaido Shinkansen Bento" มาเป็นกล่องข้าวรูปทรงรถไฟหัวกระสุนสีเขียวคาดแถบสีม่วงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Hokkaido Shinkansen โดยภายในข้าวกล่องจะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบอันแสดงถึงความเป็นฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็น..."จิราชิซูชิ" ที่ใช้ข้าว ปู ไข่ปลาแซลมอน ไข่ สาหร่าย ขิงดอง เป็นส่วนประกอบหลัก และตัวแผ่นสาหร่ายก็ได้ทำออกมาเป็นรูปแผนที่จังหวัดฮอกไกโดด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีของทอด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคร็อกเกะ) ขาปู และเยลลี่รสยูบาริเมลอน ของขึ้นชื่อในฮอกไกโด
เมื่อทุกอย่างมาอยู่รวมกันในกล่องข้าว ก็ยิ่งเพิ่มสีสันได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าอาหารรสชาติอร่อยด้วยค่ะ แถมตัวกล่องข้าวรถไฟยังสามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้ด้วยนะ ^^
ส่วนข้าวกล่อง Ekiben อีกอย่างที่จะมาแนะนำกันก็คือ "ข้าวหน้าปลาไหล" ค่ะ
เมื่อเอากระดาษครอบออก ก็จะเห็นตะเกียบ ทิชชู่เปียก ไม้จิ้มฟัน และน้ำซอสสำหรับราดตัวปลาไหลแถมมาด้วย ...ญี่ปุ่นนี่เขาช่างคิดจริงๆ นะ ><
ทุกคนอาจจะเห็นว่า อืมมม มันก็ดูไม่น่าจะมีอะไรนะ ...แต่ขอบอกว่า มันมีค่ะ!! สิ่งที่พิเศษสำหรับข้าวกล่องนี้ก็คือ เจ้าเชือกที่อยู่ข้างกล่องนี่แหละ
จากป้ายสติ๊กเกอร์ที่ปิดทับเชือก แปลเป็นภาษาไทย เขาระบุไว้ว่า "ระวัง! กรุณาดึงเชือกให้จนสุด" งานนี้รออะไรคะ จัดไปสิฮะ ><"
ตอนแรกดึงมาจนสุด (สำหรับเรา) แล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายก็เลยดึงจนสุดปลายเชือกเลย และผลที่ออกมาก็คือ กล่องข้าวของเขาเริ่มมีควันโชยออกมาในทันที แถมกล่องข้าวยังร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วย ตามภาพเลยเน่ออ (อาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นะ ^^" )
หลังจากที่รอได้ประมาณ 5 นาที ก็สามารถเปิดทานได้เลยค่ะ ไม่รอช้า ก็รีบฉีกซองเอาน้ำซอสราดลงไปบนตัวปลาไหลแล้วทานเลย อื้มมมมม อาหย่อยโฮกกกกก!! >w<
แน่นอนว่าหลังจากที่ทานจนหมด เราก็มือซน ลองยกถาดข้าวกล่องออกมา และเราก็พบเคล็ดลับที่ทำให้กล่องข้าวสามารถอุ่นร้อนได้ นั่นก็คือเจ้าสิ่งนี้แหละ เขาเรียกกันว่า ナルホット (Naruhot) จ้าา ซึ่งมันจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อเราดึงเชือกออกมานี่แหละนะ
พวกเราใช้เวลานั่งรถไฟชินคันเซ็นประมาณ ชม. กว่าๆ เกือบ 2 ชม. ในที่สุด พวกเราก็มาถึงสถานีเซนไดโดยสวัสดิภาพ และจากสถานี พวกเราก็ลากกระเป๋าไปยังโรงแรม ANA Holiday Inn Sendai ที่พักสำหรับค้างคืนที่เซนได
ในวันนี้ พวกเราไม่ได้จัดโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษ นอกจากเดินทางข้ามเมืองเพื่อเช็คอินเข้าโรงแรมเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็เลยได้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย แล้วออกมาอีกครั้งในช่วงเย็นเพื่อออกมาทานข้าว แน่นอนว่านาทีนี้นู๋นะสลบเหมือดจ้าา 5555
เมื่อถึงเวลานัดเจอกันช่วงเย็น ปรากฏว่า 1 หนุ่ม และ 1 สาวสมาชิกในกลุ่มได้ทำการออกไปเซอร์เวย์รอบๆ โรงแรมมาก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้มอบสิทธิอำนาจให้ทั้งคู่นำทางทุกคน (รวมถึงเรา) แทน ทั้งคู่เลยพาพวกเราไปเดินดูของที่ Yodobashi และ Matsumoto Kiyoshi ก่อน ซึ่งงานนี้ทุกคนได้ละลายทรัพย์ไปถ้วนหน้าเลยทีเดียว ฮาาา
และหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็พาพวกเราไปทานข้าวเย็นใน Bivi Sendai ซึ่งหลังจากที่ได้เดินดูทั่วห้างซักพัก ก็ตัดสินใจทานอาหารที่ร้าน Saizeriya ร้านสเต็กและอาหารอิตาลี่ในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งที่จริงมีอยู่หลายสาขาทั่วญี่ปุ่นเลยจ้า
แต่ละคนก็มีสั่งทั้งสเต็ก สปาเก็ตตี้ พิซซ่า และเครื่องดื่มต่างๆ กันไป ส่วนของนะน่ะหรอ? เนื่องจากว่ายังติดใจกับโดเรียไม่หาย เลยขอจัดไปอีกมื้อนึง แหะๆๆๆ =////=
ส่วนของหวานก็เป็น...เจ้าสิ่งนี้ จำชื่อเต็มๆ ไม่ได้ล่ะ แต่ที่แน่ๆ มีทั้งเชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ไอศกรีมวานิลลา และตัวแป้งที่คล้ายกับแป้งพิซซ่า แถมที่สำคัญ มีเฉพาะฤดูกาลด้วย อร่อยมากมาย ^^
เมื่อทุกคนทานข้าวกันอิ่มหนำสำราญ ก็พากันเดินทะลุสถานีเซนไดไปยังอีกฟากหนึ่ง เพื่อหาซื้อหมวกและถุงมือที่ H&M เนื่องจากลมหนาวแรงมากๆ จนต้องหาอุปกรณ์กันหนาวเพิ่มเลยทีเดียว 5555 ซึ่งตัวเนื้อผ้าที่โน่นเขาดีมาก และเอาลมหนาวจนอยู่หมัดเลยล่ะ
ว่าแล้วก็ขอส่งท้ายตอนนี้ด้วยภาพยามค่ำคืนที่หน้าสถานีเซนไดละกันนะ ><
ตอนหน้า... เป็นอีกหนึ่งตอนที่โคตรฟินไม่แพ้กันเลยกับภารกิจสำคัญที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นจุดประสงค์หลักๆ ของทริปนี้ กับ "การตามล่าหาซากุระ" อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^
ปล. อย่าลืมติดตามอ่านบันทึกของคุณเพื่อนร่วมทริปด้วยนะ ล่าสุด เจ้าตัวอัพตอนที่ 5 แล้ว เกี่ยวกับภารกิจสุดติ่งในวันฟรีเดย์ของนาง ฮุๆๆๆ~~
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก by hades072
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 1 แค่วันแรกก็เหนื่อยแล้ว!!
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 2 แปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 3 ดูวิวฟูจิ ณ เจดีย์ห้าชั้น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 4 ภารกิจติ่งๆ ภาคโหมโรง
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 5 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part I
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip 2016 ย้อนหลัง
Japan Trip 2016 : Ep01 การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
Japan Trip 2016 : Ep02 มุ่งสู่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น
Japan Trip 2016 : Ep03 เดินชมวิวยามเช้าที่อาซาคุสะ
Japan Trip 2016 : Ep04 เช่ากิโมโนใส่เดินเล่นที่วัดเซนโซจิและริมแม่น้ำสุมิดะ
Japan Trip 2016 : Ep05 ฟินๆ กับถิ่นกำเนิดของสาวๆ วง AKB48
Japan Trip 2016 : Ep06 ชมซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่ Chureito Pagoda
Japan Trip 2016 : Ep07 แวะศาลเจ้าเมจิ โอโมเตะซันโด และชิบุยะ
Japan Trip 2016 : Ep08 Gotokuji วัดนี้มีแต่แมวนางกวัก /ᐠ ._. ᐟ\ノ
Japan Trip 2016 : Ep09 ฟินสุดติ่งที่ Fujiko·F·Fujio Museum
Japan Trip 2016 : Ep10 นัดเจอเพื่อนคนไทยในโตเกียว
ナナ~♪
Ekiben (เอคิเบ็น) ก็คือ ข้าวกล่องที่เอาไว้ทานตอนอยู่บนรถไฟ ซึ่งตามสถานีใหญ่ๆ ก็มักจะมีขายกันอยู่แล้ว ส่วนตัวเมนูอาหารนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายตามภูมิภาคเลย ทั้งข้าวหน้าเนื้อ จิราชิซูชิ และอื่นๆ ซึ่งหน้าตาน่ารับประทานมากๆ เลยล่ะ ^^
สำหรับข้าวกล่อง Ekiben ที่จะเอามาให้ได้ชมกันนั้น ขอเลือกเอามาให้ดู 2 แบบนะ โดยแบบแรกเป็นข้าวกล่องที่ทำออกมาเพื่อต้อนรับการมาของ Hokkaido Shinkansen กับ "Hokkaido Shinkansen Bento"
"Hokkaido Shinkansen Bento" มาเป็นกล่องข้าวรูปทรงรถไฟหัวกระสุนสีเขียวคาดแถบสีม่วงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Hokkaido Shinkansen โดยภายในข้าวกล่องจะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบอันแสดงถึงความเป็นฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็น..."จิราชิซูชิ" ที่ใช้ข้าว ปู ไข่ปลาแซลมอน ไข่ สาหร่าย ขิงดอง เป็นส่วนประกอบหลัก และตัวแผ่นสาหร่ายก็ได้ทำออกมาเป็นรูปแผนที่จังหวัดฮอกไกโดด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีของทอด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นคร็อกเกะ) ขาปู และเยลลี่รสยูบาริเมลอน ของขึ้นชื่อในฮอกไกโด
เมื่อทุกอย่างมาอยู่รวมกันในกล่องข้าว ก็ยิ่งเพิ่มสีสันได้มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าอาหารรสชาติอร่อยด้วยค่ะ แถมตัวกล่องข้าวรถไฟยังสามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้ด้วยนะ ^^
ส่วนข้าวกล่อง Ekiben อีกอย่างที่จะมาแนะนำกันก็คือ "ข้าวหน้าปลาไหล" ค่ะ
เมื่อเอากระดาษครอบออก ก็จะเห็นตะเกียบ ทิชชู่เปียก ไม้จิ้มฟัน และน้ำซอสสำหรับราดตัวปลาไหลแถมมาด้วย ...ญี่ปุ่นนี่เขาช่างคิดจริงๆ นะ ><
ทุกคนอาจจะเห็นว่า อืมมม มันก็ดูไม่น่าจะมีอะไรนะ ...แต่ขอบอกว่า มันมีค่ะ!! สิ่งที่พิเศษสำหรับข้าวกล่องนี้ก็คือ เจ้าเชือกที่อยู่ข้างกล่องนี่แหละ
จากป้ายสติ๊กเกอร์ที่ปิดทับเชือก แปลเป็นภาษาไทย เขาระบุไว้ว่า "ระวัง! กรุณาดึงเชือกให้จนสุด" งานนี้รออะไรคะ จัดไปสิฮะ ><"
ตอนแรกดึงมาจนสุด (สำหรับเรา) แล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายก็เลยดึงจนสุดปลายเชือกเลย และผลที่ออกมาก็คือ กล่องข้าวของเขาเริ่มมีควันโชยออกมาในทันที แถมกล่องข้าวยังร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วย ตามภาพเลยเน่ออ (อาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นะ ^^" )
หลังจากที่รอได้ประมาณ 5 นาที ก็สามารถเปิดทานได้เลยค่ะ ไม่รอช้า ก็รีบฉีกซองเอาน้ำซอสราดลงไปบนตัวปลาไหลแล้วทานเลย อื้มมมมม อาหย่อยโฮกกกกก!! >w<
แน่นอนว่าหลังจากที่ทานจนหมด เราก็มือซน ลองยกถาดข้าวกล่องออกมา และเราก็พบเคล็ดลับที่ทำให้กล่องข้าวสามารถอุ่นร้อนได้ นั่นก็คือเจ้าสิ่งนี้แหละ เขาเรียกกันว่า ナルホット (Naruhot) จ้าา ซึ่งมันจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อเราดึงเชือกออกมานี่แหละนะ
พวกเราใช้เวลานั่งรถไฟชินคันเซ็นประมาณ ชม. กว่าๆ เกือบ 2 ชม. ในที่สุด พวกเราก็มาถึงสถานีเซนไดโดยสวัสดิภาพ และจากสถานี พวกเราก็ลากกระเป๋าไปยังโรงแรม ANA Holiday Inn Sendai ที่พักสำหรับค้างคืนที่เซนได
ในวันนี้ พวกเราไม่ได้จัดโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษ นอกจากเดินทางข้ามเมืองเพื่อเช็คอินเข้าโรงแรมเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็เลยได้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย แล้วออกมาอีกครั้งในช่วงเย็นเพื่อออกมาทานข้าว แน่นอนว่านาทีนี้นู๋นะสลบเหมือดจ้าา 5555
เมื่อถึงเวลานัดเจอกันช่วงเย็น ปรากฏว่า 1 หนุ่ม และ 1 สาวสมาชิกในกลุ่มได้ทำการออกไปเซอร์เวย์รอบๆ โรงแรมมาก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้มอบสิทธิอำนาจให้ทั้งคู่นำทางทุกคน (รวมถึงเรา) แทน ทั้งคู่เลยพาพวกเราไปเดินดูของที่ Yodobashi และ Matsumoto Kiyoshi ก่อน ซึ่งงานนี้ทุกคนได้ละลายทรัพย์ไปถ้วนหน้าเลยทีเดียว ฮาาา
และหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็พาพวกเราไปทานข้าวเย็นใน Bivi Sendai ซึ่งหลังจากที่ได้เดินดูทั่วห้างซักพัก ก็ตัดสินใจทานอาหารที่ร้าน Saizeriya ร้านสเต็กและอาหารอิตาลี่ในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งที่จริงมีอยู่หลายสาขาทั่วญี่ปุ่นเลยจ้า
แต่ละคนก็มีสั่งทั้งสเต็ก สปาเก็ตตี้ พิซซ่า และเครื่องดื่มต่างๆ กันไป ส่วนของนะน่ะหรอ? เนื่องจากว่ายังติดใจกับโดเรียไม่หาย เลยขอจัดไปอีกมื้อนึง แหะๆๆๆ =////=
ส่วนของหวานก็เป็น...เจ้าสิ่งนี้ จำชื่อเต็มๆ ไม่ได้ล่ะ แต่ที่แน่ๆ มีทั้งเชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ไอศกรีมวานิลลา และตัวแป้งที่คล้ายกับแป้งพิซซ่า แถมที่สำคัญ มีเฉพาะฤดูกาลด้วย อร่อยมากมาย ^^
เมื่อทุกคนทานข้าวกันอิ่มหนำสำราญ ก็พากันเดินทะลุสถานีเซนไดไปยังอีกฟากหนึ่ง เพื่อหาซื้อหมวกและถุงมือที่ H&M เนื่องจากลมหนาวแรงมากๆ จนต้องหาอุปกรณ์กันหนาวเพิ่มเลยทีเดียว 5555 ซึ่งตัวเนื้อผ้าที่โน่นเขาดีมาก และเอาลมหนาวจนอยู่หมัดเลยล่ะ
ว่าแล้วก็ขอส่งท้ายตอนนี้ด้วยภาพยามค่ำคืนที่หน้าสถานีเซนไดละกันนะ ><
ตอนหน้า... เป็นอีกหนึ่งตอนที่โคตรฟินไม่แพ้กันเลยกับภารกิจสำคัญที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นจุดประสงค์หลักๆ ของทริปนี้ กับ "การตามล่าหาซากุระ" อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^
ปล. อย่าลืมติดตามอ่านบันทึกของคุณเพื่อนร่วมทริปด้วยนะ ล่าสุด เจ้าตัวอัพตอนที่ 5 แล้ว เกี่ยวกับภารกิจสุดติ่งในวันฟรีเดย์ของนาง ฮุๆๆๆ~~
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก by hades072
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 1 แค่วันแรกก็เหนื่อยแล้ว!!
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 2 แปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 3 ดูวิวฟูจิ ณ เจดีย์ห้าชั้น
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 4 ภารกิจติ่งๆ ภาคโหมโรง
เที่ยวญี่ปุ่นแบบโอตาคุสายแดก ตอนที่ 5 ภารกิจติ่งๆ ภาคเต็มสตรีม Part I
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip 2016 ย้อนหลัง
Japan Trip 2016 : Ep01 การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
Japan Trip 2016 : Ep02 มุ่งสู่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น
Japan Trip 2016 : Ep03 เดินชมวิวยามเช้าที่อาซาคุสะ
Japan Trip 2016 : Ep04 เช่ากิโมโนใส่เดินเล่นที่วัดเซนโซจิและริมแม่น้ำสุมิดะ
Japan Trip 2016 : Ep05 ฟินๆ กับถิ่นกำเนิดของสาวๆ วง AKB48
Japan Trip 2016 : Ep06 ชมซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่ Chureito Pagoda
Japan Trip 2016 : Ep07 แวะศาลเจ้าเมจิ โอโมเตะซันโด และชิบุยะ
Japan Trip 2016 : Ep08 Gotokuji วัดนี้มีแต่แมวนางกวัก /ᐠ ._. ᐟ\ノ
Japan Trip 2016 : Ep09 ฟินสุดติ่งที่ Fujiko·F·Fujio Museum
Japan Trip 2016 : Ep10 นัดเจอเพื่อนคนไทยในโตเกียว
ナナ~♪