DiaryTravelJapan
Japan Trip Spring 2018 : Ep03 ตะลุยไปในย่านอุเอโนะ (Ueno)
หลังจากที่เข้ากรุง ฝากสัมภาระที่โรงแรมเรียบร้อย ก็พาพวกแม่ๆ ไปเดินเที่ยววัดอาซาคุสะและริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เคยได้มาเที่ยวกับเพื่อนเมื่อครั้งก่อน ...ซากุระที่คิดว่าจะได้เห็นตอนมันฟูลบลูมนั้นช่างไม่ต่างจากครั้งก่อนที่มาเล้ยยย ฮือออ T T
วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2018 (ต่อ)
หลังจากที่ได้เช็คอินและนั่งพักเหนื่อยกันในห้องได้พักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาอันเป็นสมควรที่จะออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป นั่นก็คือที่... "ย่านอุเอโนะ" นั่นเองจ้าา
ที่จริงแล้ว ย่านอุเอโนะ นะก็เคยได้มาเดินเที่ยวแล้ว ...แต่ที่ได้มาเที่ยวนั้นก็มีแค่เป็นจุดเปลี่ยนขบวนรถไฟกับมาช้อปปิ้งแถวย่านอาเมโยโกะนี่แหละ 555
แต่สำหรับคราวนี้ นะได้เพิ่มแพลนพาพวกแม่เดินเที่ยวชมบรรยากาศในสวนอุเอโนะด้วยค่ะ เพราะที่นี่ก็เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว ^^
พวกนะออกเดินทางจากสถานี Asakusa ไปยังสถานี Ueno โดยใช้บัตรรถไฟใต้ดิน Tokyo Subway Ticket แบบ 48 ชั่วโมง และหลังจากที่ถึงสถานี Ueno พวกนะก็แวะมาทำธุระบางอย่างที่สถานี JR Ueno ก่อนที่จะเดินทางต่อไปค่ะ
หลังจากที่พวกนะทำธุระเสร็จ ก็รีบหาทางที่จะไปยังสวนสาธารณะอุเอโนะ ...แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอทางที่จะออกไปยังสวนดังกล่าวโดยตรงเลย จึงอาศัยถามเจ้าหน้าที่สถานี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำให้ขึ้นบันไดที่ใกล้ที่สุดจากจุดที่ยืนอยู่
...ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ นะว่าทำไมต้องขึ้นบันได เพราะสวนสาธารณะมันอยู่ข้างสถานีรถไฟไม่ใช่เร้ออออ ><"
แต่พอได้ขึ้นแล้ว นะก็ได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ มันทำให้ชวนอึ้งมากๆ เลยค่ะ!!
สถานที่ที่เห็นอยู่ตรงหน้าเหมือนเป็นลานกว้างที่อยู่เหนืออาคารสถานีอีกที ซึ่งมันดูโล่งและโปร่งมากๆ แถมยังเดินสบายอีกด้วย ^^
เมื่อมองออกไปตรงที่มีคนขึ้นบันไดต่อ ก็ได้พบว่านี่คือทางเข้าสวนสาธารณะอีกจุดหนึ่งค่ะ ซึ่งเมื่อเดินตรงไปอีกก็จะได้เห็นแผนผังที่บอกจุดต่างๆ ได้ชัดเจน
และนะก็ได้รู้ว่า จุดลูกศรสีแดงที่นะกำลังยืนอยู่นั้น เขาเรียกว่า "สะพานแพนด้า" ค่ะ ซึ่งหลังจากที่เดินต่อไปได้ไม่นาน ก็มาถึงบริเวณที่มีผู้คนนั่งปิกนิกและเดินกันอยู่เป็นจำนวนมาก
ใช่แล้วค่ะ บริเวณโซนนี้ นอกจากจะเป็นโซนที่เป็นจุดชมซากุระแล้ว ก็ยังเป็นบริเวณที่เหล่าชาวญี่ปุ่นต่างพากันมาปูเสื่อปิกนิกกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง แถมบางจุดก็มีคนเมากำลังเต้นแร้งเต้นกาและส่งเสียงดังอึกทึกไปทั่วด้วย
...แต่เนื่องจากว่าปีนี้อากาศอุ่นเร็วกว่าปีก่อนๆ ก็เลยทำให้ซากุระบานเร็ว กลายเป็นว่าได้มาเห็นซากุระในช่วงโรยราไปอีกที่หนึ่ง ไม่ต่างจากที่อาซาคุสะเลยค่ะ 5555
แต่ๆๆๆ คุณคิดว่าเราจะเฟลกลับไปอย่างงั้นหรอ?
ขอบอกเลยว่า "ไม่เลยจ้าาา"
เพราะในระหว่างที่กำลังเดินชมบรรยากาศอยู่นั้น สายตาพวกเราก็ได้เห็นกลุ่มคนกลุ่มนึงกำลังรุมอะไรบางอย่างที่เป็นสีชมพูอยู่แต่ไกล ด้วยความสงสัยจึงพากันเดินไปดูให้กระจ่าง
และสิ่งนั้นก็คือ...
"ซากุระพันธุ์ย้อย" หรือ "ชิดาเระซากุระ" ที่ยังคงฟูลบลูมอยู่ภายในส่วนของ Kiyomizu Kannon-do นั่นเอง!! แถมยังมีบานให้เห็นอยู่ 2-3 ต้นด้วย งานนี้เลยไม่พลาดต้องเดินไปแชะภาพให้สะใจเลยค่ะ ^^
เนื่องด้วยตอนนั้นใกล้เวลามืดค่ำแล้ว เลยทำให้มีเวลาอยู่ในสวนสาธารณะแบบจำกัด จึงตัดสินใจที่จะพาพวกแม่ไปทานข้าวเย็นกันต่อค่ะ แต่ก่อนที่จะเดินออกจากสวน ก็ได้ผ่านรูปปั้นผู้ชายในชุดโบราณและน้องหมาอีก 1 ตัว ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นอนุสาวรีย์ของคุณ Saigo Takamori หนึ่งในซามูไรผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ
พอพ้นจากบริเวณนั้นไปก็จะเป็นทางลงบันไดที่ระยะทางค่อนข้างยาวพอสมควรเหมือนกัน
เมื่อเดินออกจากสวนอุเอโนะได้เรียบร้อยแล้ว ก็พาพวกแม่ๆ ไปทานมื้อเย็นกันค่ะ โดยร้านที่เลือกไปทานก็คือร้าน "Izuei" (伊豆榮) ร้านขายข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะนั่นเอง
เหตุผลที่พาพวกแม่ไปกิน ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากลบล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเมนูที่แม่นะเคยทานเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนนั้นแม่นะได้ทานเมนูข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นของร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าหนึ่ง ซึ่งหน้าตามันจะประมาณเมนูคัตสึด้งเลย แต่เปลี่ยนจากหมูทงคัตสึเป็นปลาไหลย่างแทน ส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง... ไม่ถูกปากคุณแม่อย่างแรง แถมคุณแม่ก็หมายหัวเมนูนั้นเลยว่าจะไม่กินอีกตลอดชีวิตเลยค่ะ ^^"
ดังนั้นในครั้งนี้นะเลยต้องพามาทานเพื่อให้คุณแม่หายเข้าใจผิดซะทีค่ะ 555 เพราะเมนูที่จะให้คุณแม่ลองทานนั้น หน้าตาและรสชาติแตกต่างจากที่คุณแม่เคยทานอย่างแน่นอน ซึ่งหน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้แหละ
ซูมใกล้ๆ เข้าไปอีกหน่อย อิอิ =..=
และผลที่ออกมานั้นก็นับว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะสามารถลบล้างความเชื่อผิดๆ ลงไปได้อย่างสิ้นเชิง แถมคุณแม่ยังบอกว่าอร่อยด้วยล่ะค่ะ เย่ๆๆ \(^o^)/
นอกจากชุดอุนะจู (うな重) ที่นะและพวกแม่ได้ทานกันแล้ว ก็ได้สั่งสลัดผักแบบสไตล์ญี่ปุ่นมาทานด้วย เนื่องจากพวกแม่เริ่มบ่นๆ ว่าไม่ค่อยได้ทานผักเลย 5555
ซึ่งหน้าตาสลัดที่สั่งไปก็ออกมาประมาณนี้ รสชาติเอาจริงๆ ก็โอเคนะ ถ้าไม่ติดเรื่องหอมหัวใหญ่สดที่ใส่เข้ามาเยอะไปหน่อย ไม่งั้นคงได้ทานไปหมดแล้วล่ะ แต่ที่ชวนตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือ เจ้ามะเขือเทศสีแดงลูกจิ๋วนี่แหละ ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ ><
หลังจากที่ได้ทานข้าวจนอิ่ม ก็เดินย้อนกลับมายัง "ย่านอาเมโยโกะ" แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งที่นี่นะเองก็เคยมีโอกาสได้มาแล้วหนนึงกับเพื่อนๆ ค่ะ
สำหรับคราวนี้ก็เป็นการพาแม่ไปเดินดูของและตัวเองก็ได้ซื้อของที่ต้องการไปหน่อยนึง เสียดายที่เดินเพลินไปหน่อยจนไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เลย 555
หลังจากที่เดินดูของและซื้อของได้พักใหญ่ๆ ก็เดินทางกลับที่พักเพื่อไปพักผ่อนค่ะ
แต่ๆๆๆ
ถึงแม้จะเดินดูของที่อาเมโยโกะไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้พาแม่ไปเดินดูที่ช้อปปิ้งที่อยู่ใกล้ที่พักเลย
ดังนั้น หลังจากที่กลับมานั่งพักที่ห้องแล้ว พวกเราก็เลยตัดสินใจเดินออกจากที่พักอีกรอบ เพื่อพาพวกแม่ไปเดินดูของที่ "ดองกิโฮเต้ สาขาอาซาคุสะ"!!
เนื่องจากว่าดองกิโฮเต้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ก็เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลามากนัก จึงพาพวกแม่ๆ มาเดินช้อปปิ้งต่อได้อย่างสบายใจค่ะ
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหน้าทางเข้าจะมีตู้ปลาอยู่ด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบมา ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้แทบจะทุกสาขาเลยล่ะ ^^
และในตอนที่เดินออกมาเพื่อจะกลับที่พัก พวกแม่ๆ ก็ได้สังเกตเห็นต้นซากุระต้นนึงที่ยังคงสภาพฟูลบลูมอยู่ เป็นซากุระพันธุ์ดอกซ้อน ไม่แน่ใจว่าเรียกสายพันธุ์นี้ว่าอย่างไรเหมือนกัน แต่ดูเผินๆ แล้วคล้ายกับต้นไม้ปลอมมาก ><"
จริงๆ ก่อนกลับเข้าห้องพักก็ได้แวะซื้อของ Family Mart ที่อยู่ตรงชั้นล่าง ข้างล็อบบี้ด้วย ...แต่ไม่ได้ถ่ายของกินอะไรมาเลยค่ะ แหะๆๆ เอาเถอะ อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเพื่อพักเอาแรงสำหรับวันต่อไปดีกว่า =////=
ก็จบกันไปเรียบร้อยสำหรับวันแรกที่อยู่ญี่ปุ่นนะคะ ซึ่งในตอนต่อไป พวกนะก็ยังคงอยู่ในโตเกียวค่ะ แล้วนะจะได้พาพวกแม่ไปเที่ยวชมที่ไหนกันบ้าง? ต้องคอยติดตามชมกันในตอนต่อไปนะคะ ^^
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip Spring 2018 ย้อนหลัง
Japan Trip Spring 2018 : Ep01 เมื่อได้ออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับ 2 สาว ^^
Japan Trip Spring 2018 : Ep02 Asakusa again and again... ^^"
ナナ~♪
เมื่อมองออกไปตรงที่มีคนขึ้นบันไดต่อ ก็ได้พบว่านี่คือทางเข้าสวนสาธารณะอีกจุดหนึ่งค่ะ ซึ่งเมื่อเดินตรงไปอีกก็จะได้เห็นแผนผังที่บอกจุดต่างๆ ได้ชัดเจน
และนะก็ได้รู้ว่า จุดลูกศรสีแดงที่นะกำลังยืนอยู่นั้น เขาเรียกว่า "สะพานแพนด้า" ค่ะ ซึ่งหลังจากที่เดินต่อไปได้ไม่นาน ก็มาถึงบริเวณที่มีผู้คนนั่งปิกนิกและเดินกันอยู่เป็นจำนวนมาก
ใช่แล้วค่ะ บริเวณโซนนี้ นอกจากจะเป็นโซนที่เป็นจุดชมซากุระแล้ว ก็ยังเป็นบริเวณที่เหล่าชาวญี่ปุ่นต่างพากันมาปูเสื่อปิกนิกกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง แถมบางจุดก็มีคนเมากำลังเต้นแร้งเต้นกาและส่งเสียงดังอึกทึกไปทั่วด้วย
...แต่เนื่องจากว่าปีนี้อากาศอุ่นเร็วกว่าปีก่อนๆ ก็เลยทำให้ซากุระบานเร็ว กลายเป็นว่าได้มาเห็นซากุระในช่วงโรยราไปอีกที่หนึ่ง ไม่ต่างจากที่อาซาคุสะเลยค่ะ 5555
แต่ๆๆๆ คุณคิดว่าเราจะเฟลกลับไปอย่างงั้นหรอ?
ขอบอกเลยว่า "ไม่เลยจ้าาา"
เพราะในระหว่างที่กำลังเดินชมบรรยากาศอยู่นั้น สายตาพวกเราก็ได้เห็นกลุ่มคนกลุ่มนึงกำลังรุมอะไรบางอย่างที่เป็นสีชมพูอยู่แต่ไกล ด้วยความสงสัยจึงพากันเดินไปดูให้กระจ่าง
และสิ่งนั้นก็คือ...
"ซากุระพันธุ์ย้อย" หรือ "ชิดาเระซากุระ" ที่ยังคงฟูลบลูมอยู่ภายในส่วนของ Kiyomizu Kannon-do นั่นเอง!! แถมยังมีบานให้เห็นอยู่ 2-3 ต้นด้วย งานนี้เลยไม่พลาดต้องเดินไปแชะภาพให้สะใจเลยค่ะ ^^
เนื่องด้วยตอนนั้นใกล้เวลามืดค่ำแล้ว เลยทำให้มีเวลาอยู่ในสวนสาธารณะแบบจำกัด จึงตัดสินใจที่จะพาพวกแม่ไปทานข้าวเย็นกันต่อค่ะ แต่ก่อนที่จะเดินออกจากสวน ก็ได้ผ่านรูปปั้นผู้ชายในชุดโบราณและน้องหมาอีก 1 ตัว ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นอนุสาวรีย์ของคุณ Saigo Takamori หนึ่งในซามูไรผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ
พอพ้นจากบริเวณนั้นไปก็จะเป็นทางลงบันไดที่ระยะทางค่อนข้างยาวพอสมควรเหมือนกัน
เมื่อเดินออกจากสวนอุเอโนะได้เรียบร้อยแล้ว ก็พาพวกแม่ๆ ไปทานมื้อเย็นกันค่ะ โดยร้านที่เลือกไปทานก็คือร้าน "Izuei" (伊豆榮) ร้านขายข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะนั่นเอง
เหตุผลที่พาพวกแม่ไปกิน ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากลบล้างความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเมนูที่แม่นะเคยทานเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนนั้นแม่นะได้ทานเมนูข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นของร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าหนึ่ง ซึ่งหน้าตามันจะประมาณเมนูคัตสึด้งเลย แต่เปลี่ยนจากหมูทงคัตสึเป็นปลาไหลย่างแทน ส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง... ไม่ถูกปากคุณแม่อย่างแรง แถมคุณแม่ก็หมายหัวเมนูนั้นเลยว่าจะไม่กินอีกตลอดชีวิตเลยค่ะ ^^"
ดังนั้นในครั้งนี้นะเลยต้องพามาทานเพื่อให้คุณแม่หายเข้าใจผิดซะทีค่ะ 555 เพราะเมนูที่จะให้คุณแม่ลองทานนั้น หน้าตาและรสชาติแตกต่างจากที่คุณแม่เคยทานอย่างแน่นอน ซึ่งหน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้แหละ
ซูมใกล้ๆ เข้าไปอีกหน่อย อิอิ =..=
และผลที่ออกมานั้นก็นับว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะสามารถลบล้างความเชื่อผิดๆ ลงไปได้อย่างสิ้นเชิง แถมคุณแม่ยังบอกว่าอร่อยด้วยล่ะค่ะ เย่ๆๆ \(^o^)/
นอกจากชุดอุนะจู (うな重) ที่นะและพวกแม่ได้ทานกันแล้ว ก็ได้สั่งสลัดผักแบบสไตล์ญี่ปุ่นมาทานด้วย เนื่องจากพวกแม่เริ่มบ่นๆ ว่าไม่ค่อยได้ทานผักเลย 5555
ซึ่งหน้าตาสลัดที่สั่งไปก็ออกมาประมาณนี้ รสชาติเอาจริงๆ ก็โอเคนะ ถ้าไม่ติดเรื่องหอมหัวใหญ่สดที่ใส่เข้ามาเยอะไปหน่อย ไม่งั้นคงได้ทานไปหมดแล้วล่ะ แต่ที่ชวนตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือ เจ้ามะเขือเทศสีแดงลูกจิ๋วนี่แหละ ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ ><
หลังจากที่ได้ทานข้าวจนอิ่ม ก็เดินย้อนกลับมายัง "ย่านอาเมโยโกะ" แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งที่นี่นะเองก็เคยมีโอกาสได้มาแล้วหนนึงกับเพื่อนๆ ค่ะ
สำหรับคราวนี้ก็เป็นการพาแม่ไปเดินดูของและตัวเองก็ได้ซื้อของที่ต้องการไปหน่อยนึง เสียดายที่เดินเพลินไปหน่อยจนไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เลย 555
หลังจากที่เดินดูของและซื้อของได้พักใหญ่ๆ ก็เดินทางกลับที่พักเพื่อไปพักผ่อนค่ะ
แต่ๆๆๆ
ถึงแม้จะเดินดูของที่อาเมโยโกะไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้พาแม่ไปเดินดูที่ช้อปปิ้งที่อยู่ใกล้ที่พักเลย
ดังนั้น หลังจากที่กลับมานั่งพักที่ห้องแล้ว พวกเราก็เลยตัดสินใจเดินออกจากที่พักอีกรอบ เพื่อพาพวกแม่ไปเดินดูของที่ "ดองกิโฮเต้ สาขาอาซาคุสะ"!!
เนื่องจากว่าดองกิโฮเต้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ก็เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลามากนัก จึงพาพวกแม่ๆ มาเดินช้อปปิ้งต่อได้อย่างสบายใจค่ะ
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหน้าทางเข้าจะมีตู้ปลาอยู่ด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบมา ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนี้แทบจะทุกสาขาเลยล่ะ ^^
และในตอนที่เดินออกมาเพื่อจะกลับที่พัก พวกแม่ๆ ก็ได้สังเกตเห็นต้นซากุระต้นนึงที่ยังคงสภาพฟูลบลูมอยู่ เป็นซากุระพันธุ์ดอกซ้อน ไม่แน่ใจว่าเรียกสายพันธุ์นี้ว่าอย่างไรเหมือนกัน แต่ดูเผินๆ แล้วคล้ายกับต้นไม้ปลอมมาก ><"
จริงๆ ก่อนกลับเข้าห้องพักก็ได้แวะซื้อของ Family Mart ที่อยู่ตรงชั้นล่าง ข้างล็อบบี้ด้วย ...แต่ไม่ได้ถ่ายของกินอะไรมาเลยค่ะ แหะๆๆ เอาเถอะ อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเพื่อพักเอาแรงสำหรับวันต่อไปดีกว่า =////=
ก็จบกันไปเรียบร้อยสำหรับวันแรกที่อยู่ญี่ปุ่นนะคะ ซึ่งในตอนต่อไป พวกนะก็ยังคงอยู่ในโตเกียวค่ะ แล้วนะจะได้พาพวกแม่ไปเที่ยวชมที่ไหนกันบ้าง? ต้องคอยติดตามชมกันในตอนต่อไปนะคะ ^^
อ่านบันทึกการเดินทาง Japan Trip Spring 2018 ย้อนหลัง
Japan Trip Spring 2018 : Ep01 เมื่อได้ออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับ 2 สาว ^^
Japan Trip Spring 2018 : Ep02 Asakusa again and again... ^^"
ナナ~♪