TravelJapanJGB Tour
บันทึกการเดินทาง JGB Tour : ตอน Food and Farm Experience in HOKKAIDO (4)
--------------------------------------
วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2559
มาวันนี้ก็ได้ถึงวันที่ต้องเดินทางออกจากเมืองโอบิฮิโระแล้วล่ะค่ะ ซึ่งในวันนี้ที่โอบิฮิโระอากาศเริ่มอุ่นขึ้นมาหน่อยและไม่มีหิมะตกแล้ว
...แต่จะกลายเป็นว่าหิมะจะตกไปตามเมืองที่เรากำลังจะไปต่อจากนี้นี่สิ แงงงง ><
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ และสถานที่ต่อไปที่จะได้ไปในช่วงเช้าวันนี้ก็คือ "Hokkaido Hakone Farm" ที่อยู่ในเมืองชินจิโตเสะ ใช้เวลาเดินทางก็ราวๆ ร่วม 2 ชั่วโมงเลยค่ะ ซึ่งตอนที่ไปถึงนั้น หิมะก็ตามมาตกถึงที่ฟาร์มแห่งนี้ด้วยล่ะ 5555
เหตุผลที่พามาที่ฟาร์มแห่งนี้ก็คือ เพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์การทำชีส ซึ่งเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของจังหวัดฮอกไกโดค่ะ
พูดถึง "ชีส" ยอมรับเลยว่า "ชีส" บนโลกนี้มีให้เลือกทานอยู่หลายชนิดเลยล่ะ บางชนิดก็ต้องใช้เวลาทำนาน ในขณะที่บางชนิดก็ใช้เวลาทำไม่นานนัก แต่สิ่งที่ชีสทุกชนิดมีเหมือนกันนั่นก็คือ ส่วนผสมหลักๆ ที่ทำมาจาก "นม" นั่นเอง
และสำหรับชีสที่ได้ร่วมกันทำในครั้งนี้ก็คือ "ชีสปานีร์" ซึ่งวิธีทำหลักๆ ก็คือการนำนมที่ต้มจนเดือดแล้วคนไปในทางเดียวกัน นมจะตกตะกอนเป็นก้อน เมื่อบีบน้ำออกและกดทับให้แข็ง จะได้ชีสปานีร์ที่สมบูรณ์ค่ะ เวลาที่ใช้ในการทำก็ไม่นานเลย แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง




และหลังจากที่ทำชีสกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามื้อเที่ยงพอดิบพอดี ซึ่งเมนูที่ได้ทานในครั้งนี้ก็คือ "เนื้อย่างเจงกีสข่าน" หนึ่งในเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อของฮอกไกโดที่ใช้เนื้อแกะเป็นวัตถุหลัก

หลังจากที่ทานกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางออกจากฟาร์มเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป และสถานที่ที่เราจะเดินทางไปกันต่อ นั่นก็คือ "เมืองโอตารุ" ค่ะ
ที่จริงส่วนตัวนะเองก็เคยได้มาเที่ยวที่โอตารุแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ได้ไปก็ได้เจอสภาพอากาศที่ไม่เหมือนกันเลย และนี่ก็เป็นครั้งที่ 3 ของนะที่บอกเลยว่าครั้งนี้ได้เจอบรรยากาศที่เซอร์ไพรส์แบบสุดๆ เลยล่ะ
ซึ่งที่ทำให้นะรู้สึกเซอร์ไพรส์ก็คือ... บรรยากาศที่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมาบรรจบกันค่ะ





นะเพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า จริงๆ แล้ว กว่าจะถึงช่วงฤดูกาลหิมะตก ใบไม้แดงต้องร่วงให้หมดก่อน แต่สิ่งที่นะและทุกคนที่ได้ร่วมเดินทางได้พบเจอนั้นเป็นสิ่งที่ขอบอกเลยว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ แถมตอนที่พวกนะไปถึง หิมะกำลังตกลงมาหนักมากเลยค่ะ จะเดินไปไหนก็ต้องระวังไม่ให้ลื่น เพราะส่วนตัวไม่มีรองเท้าสำหรับเอาไว้ย่ำหิมะเลย
เอาเป็นว่าตกหนัก-ไม่หนัก ให้คลิปในไอจีนะเป็นตัวบอกละกันนะคะ 5555
...เล่นทำเอานะไข้ขึ้นหลังจากนั้นเลยค่ะ ฮาาาา ^^"
หลังจากที่ใช้เวลาเดินเที่ยวในโอตารุซักพักใหญ่ๆ ก็ถึงเวลาออกเดินทางจากโอตารุเพื่อไปยัง "ซัปโปโร" เมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด เพื่อเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งที่พักที่ได้เข้าพักในครั้งนี้ก็คือที่โรงแรม Sapporo Grand Hotel ขอบอกว่าที่พักที่นี่ดีงามมากจริงๆ เลยขอลงรูปมาให้ดูพอสังเขปหน่อยกับสภาพห้องแบบ Single Room ที่ค่อนข้างมีพื้นที่ที่จัดว่าโอเคเลย ไม่คับแคบจนเกินไปด้วยค่ะ


และหลังจากที่เข้าเช็คอินได้ไม่นานนัก ก็ถึงเวลาอาหารมื้อเย็น โดยมื้อเย็นของวันนี้ที่ได้ทานก็คือชุดเมนูไคเซกิปูของร้าน Kani Honke ค่ะ และเนื่องจากว่าชุดอาหารของเค้าจะค่อยๆ ทยอยเสิร์ฟทีละเมนูๆ เลยขอถ่ายรูปแต่ละเมนูมาแปะรวบรวมกันไว้ในรูปเดียวดีกว่านะคะ ขอบอกว่าอาหารเค้าดีมาก แต่ขณะเดียวกันปริมาณอาหารที่รวมกันทั้งชุดก็อัดแน่นมากจนทานกันไม่หมดเลยล่ะ แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียวค่ะ (ถ้าไม่นับซาชิมิขาปูแบบดิบๆ นะ ^^" )

ตอนที่นะได้ทาน ถึงแม้ว่าอาหารจะอร่อยมาก แต่ขณะเดียวกันอาการไข้ของตัวเองก็ยังคงอยู่ พอเสร็จสิ้นอาหารมื้อเย็น ก็เลยไปร้านสะดวกซื้อต่อเพื่อซื้อวิตามินและหน้ากากกันเชื้อโรคแล้วกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องทันที...
ทำไงได้ ก็มันไม่ชินกับสภาพอากาศหนาวจัดนี่นา แงงงง TT
แต่ในทริปนี้ก็ยังมีเรื่องโชคดีอยู่อีกอย่างหนึ่งค่ะ เพราะที่จริงแล้ว ทริปนี้มีคุณแม่และเพื่อนคุณแม่มาร่วมทริปในฐานะลูกทัวร์ด้วย คืนนั้นก็เลยโดนคุณแม่บอกให้มากินยาและนอนพักที่ห้องที่พวกคุณแม่นอนอยู่เลยค่ะ ซึ่งหลังจากที่นอนพักจนเหงื่อออกท่วมตัวแล้ว อาการไข้ก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ จนร่างกายพร้อมที่จะพาพวกคุณแม่ไปเที่ยวในวันอิสระที่จะมีขึ้นต่อจากนี้ได้ ^^
สำหรับบันทึกในตอนต่อไปก็จะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ซึ่งจะมาบอกเล่าว่าได้พาพวกคุณแม่ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ อย่าลืมติดตามอ่านกันนะ ^o^
**อ่านบทความย้อนหลัง**
ナナ~♪
พูดถึง "ชีส" ยอมรับเลยว่า "ชีส" บนโลกนี้มีให้เลือกทานอยู่หลายชนิดเลยล่ะ บางชนิดก็ต้องใช้เวลาทำนาน ในขณะที่บางชนิดก็ใช้เวลาทำไม่นานนัก แต่สิ่งที่ชีสทุกชนิดมีเหมือนกันนั่นก็คือ ส่วนผสมหลักๆ ที่ทำมาจาก "นม" นั่นเอง
และสำหรับชีสที่ได้ร่วมกันทำในครั้งนี้ก็คือ "ชีสปานีร์" ซึ่งวิธีทำหลักๆ ก็คือการนำนมที่ต้มจนเดือดแล้วคนไปในทางเดียวกัน นมจะตกตะกอนเป็นก้อน เมื่อบีบน้ำออกและกดทับให้แข็ง จะได้ชีสปานีร์ที่สมบูรณ์ค่ะ เวลาที่ใช้ในการทำก็ไม่นานเลย แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
และหลังจากที่ทำชีสกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามื้อเที่ยงพอดิบพอดี ซึ่งเมนูที่ได้ทานในครั้งนี้ก็คือ "เนื้อย่างเจงกีสข่าน" หนึ่งในเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อของฮอกไกโดที่ใช้เนื้อแกะเป็นวัตถุหลัก
หลังจากที่ทานกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางออกจากฟาร์มเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป และสถานที่ที่เราจะเดินทางไปกันต่อ นั่นก็คือ "เมืองโอตารุ" ค่ะ
ที่จริงส่วนตัวนะเองก็เคยได้มาเที่ยวที่โอตารุแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ได้ไปก็ได้เจอสภาพอากาศที่ไม่เหมือนกันเลย และนี่ก็เป็นครั้งที่ 3 ของนะที่บอกเลยว่าครั้งนี้ได้เจอบรรยากาศที่เซอร์ไพรส์แบบสุดๆ เลยล่ะ
ซึ่งที่ทำให้นะรู้สึกเซอร์ไพรส์ก็คือ... บรรยากาศที่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวมาบรรจบกันค่ะ
นะเพิ่งมารู้เอาทีหลังว่า จริงๆ แล้ว กว่าจะถึงช่วงฤดูกาลหิมะตก ใบไม้แดงต้องร่วงให้หมดก่อน แต่สิ่งที่นะและทุกคนที่ได้ร่วมเดินทางได้พบเจอนั้นเป็นสิ่งที่ขอบอกเลยว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากๆ แถมตอนที่พวกนะไปถึง หิมะกำลังตกลงมาหนักมากเลยค่ะ จะเดินไปไหนก็ต้องระวังไม่ให้ลื่น เพราะส่วนตัวไม่มีรองเท้าสำหรับเอาไว้ย่ำหิมะเลย
เอาเป็นว่าตกหนัก-ไม่หนัก ให้คลิปในไอจีนะเป็นตัวบอกละกันนะคะ 5555
...เล่นทำเอานะไข้ขึ้นหลังจากนั้นเลยค่ะ ฮาาาา ^^"
หลังจากที่ใช้เวลาเดินเที่ยวในโอตารุซักพักใหญ่ๆ ก็ถึงเวลาออกเดินทางจากโอตารุเพื่อไปยัง "ซัปโปโร" เมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด เพื่อเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งที่พักที่ได้เข้าพักในครั้งนี้ก็คือที่โรงแรม Sapporo Grand Hotel ขอบอกว่าที่พักที่นี่ดีงามมากจริงๆ เลยขอลงรูปมาให้ดูพอสังเขปหน่อยกับสภาพห้องแบบ Single Room ที่ค่อนข้างมีพื้นที่ที่จัดว่าโอเคเลย ไม่คับแคบจนเกินไปด้วยค่ะ
และหลังจากที่เข้าเช็คอินได้ไม่นานนัก ก็ถึงเวลาอาหารมื้อเย็น โดยมื้อเย็นของวันนี้ที่ได้ทานก็คือชุดเมนูไคเซกิปูของร้าน Kani Honke ค่ะ และเนื่องจากว่าชุดอาหารของเค้าจะค่อยๆ ทยอยเสิร์ฟทีละเมนูๆ เลยขอถ่ายรูปแต่ละเมนูมาแปะรวบรวมกันไว้ในรูปเดียวดีกว่านะคะ ขอบอกว่าอาหารเค้าดีมาก แต่ขณะเดียวกันปริมาณอาหารที่รวมกันทั้งชุดก็อัดแน่นมากจนทานกันไม่หมดเลยล่ะ แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียวค่ะ (ถ้าไม่นับซาชิมิขาปูแบบดิบๆ นะ ^^" )
ตอนที่นะได้ทาน ถึงแม้ว่าอาหารจะอร่อยมาก แต่ขณะเดียวกันอาการไข้ของตัวเองก็ยังคงอยู่ พอเสร็จสิ้นอาหารมื้อเย็น ก็เลยไปร้านสะดวกซื้อต่อเพื่อซื้อวิตามินและหน้ากากกันเชื้อโรคแล้วกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องทันที...
ทำไงได้ ก็มันไม่ชินกับสภาพอากาศหนาวจัดนี่นา แงงงง TT
แต่ในทริปนี้ก็ยังมีเรื่องโชคดีอยู่อีกอย่างหนึ่งค่ะ เพราะที่จริงแล้ว ทริปนี้มีคุณแม่และเพื่อนคุณแม่มาร่วมทริปในฐานะลูกทัวร์ด้วย คืนนั้นก็เลยโดนคุณแม่บอกให้มากินยาและนอนพักที่ห้องที่พวกคุณแม่นอนอยู่เลยค่ะ ซึ่งหลังจากที่นอนพักจนเหงื่อออกท่วมตัวแล้ว อาการไข้ก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ จนร่างกายพร้อมที่จะพาพวกคุณแม่ไปเที่ยวในวันอิสระที่จะมีขึ้นต่อจากนี้ได้ ^^
สำหรับบันทึกในตอนต่อไปก็จะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ซึ่งจะมาบอกเล่าว่าได้พาพวกคุณแม่ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างค่ะ อย่าลืมติดตามอ่านกันนะ ^o^
**อ่านบทความย้อนหลัง**
2016/11/21
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยบอกไปแล้วว่าจะเขียนบันทึกการเดินทางที่นะได้ไปออกทัวร์ปฐมฤกษ์ของ JGB Tour ในโปรแกรมทัวร์ที่ใช้ชื่อว่า ";Food and Farm Experience in HOKKAIDO";และตอนนี้ก็พร้อมที่จะเขียนตอนแรกออกมาให้ได้อ่านกันแล้วค่ะ!! ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ลองมาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยนะ ^^
2017/01/05
ความเดิมตอนที่แล้ว... หลังจากที่ออกเดินทางจากเมืองไทยมายังฮอกไกโดแล้ว ก็เริ่มออกสตาร์ททัวร์ทันทีโดยเริ่มจากการเดินทางจากสนามบินชินจิโตเสะไปยังเมืองโอบิฮิโระ จากนั้นก็แวะทานมื้อเที่ยงโดยพาไปทานข้าวหน้าหมูย่าง เมนูขึ้นชื่อของเมืองนี้--------------------------------------วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกา…
2017/01/26
ความเดิมตอนที่แล้ว... ได้ไปชมการแข่งม้าสุดพิสดารอย่างการแข่งม้าบังเอที่สนามแข่งม้าโอบิฮิโระ และได้ทานมื้อค่ำกับอาหารออร์แกนิคที่ร้าน Tokachi Noen มาค่ะ--------------------------------------วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2559วันนี้จะเป็นวันที่นู๋นะจะขอบันทึกความทรงจำเอาไว้อีกหนึ่งวันในชีวิตเลย…
ナナ~♪