ความเดิมจากตอนที่แล้ว
มีเรื่องให้ระทึกพอกล้อมแกล้มตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ...แต่สุดท้ายก็ถึงญี่ปุ่นโดยสวัสดิภาพจ้าา ฮูเร่!! \(^o^)/
และหลังจากนี้ก็จะออกเดินทางจากสนามบินเข้ากรุงกันล่ะนะ
วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน 2018 (ต่อ)
หลังจากที่เข้าห้องน้ำ เปลี่ยนชุดให้เข้ากับสภาพอากาศ และดำเนินการซื้อตั๋วรถไฟแบบก่งก๊ง 555 ในที่สุดก็ได้ออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ อาคาร 2 ตอนเวลา 10.07 น. ด้วยรถไฟ Keisei Narita Sky Access Exp. ที่มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สนามบินฮาเนดะ แต่ๆๆ เราไปไม่ถึงฮาเนดะนะ เราไปถึงแค่อาซาคุสะเท่านั้นแหละ 555
ซึ่งระหว่างทาง เนื่องจากมีผู้โดยสารค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ต้องยืนเป็นหมีตลอดทางเลย เอาจริงๆ นี่ไม่ชินกับการใส่ชุดหนาๆ เท่าไหร่ แถมยังต้องสะพายกระเป้พร้อมลากกระเป๋าเดินทางด้วยนี่แหละ มันก็จะลำบากหน่อยๆ ^^"
พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบชั่วโมงนึงก็เดินทางมาถึงสถานีอาซาคุสะ ซึ่งตัวรถได้เข้าจอดในส่วนที่เป็นสถานีของทางรถไฟ Toei อีกที (อย่าจำสับสนกับของ Tokyo Metro ล่ะ จุดขึ้น-ลงคนละจุดกันเน่อออ) โดยหลังจากที่ถึงสถานีปลายทางแล้ว ก็ต้องเผชิญกับความลำบากอีกระลอก เนื่องจากเส้นทางที่จะไปยังทางออกที่ใกล้กับวัดเซนโซจิหรือวัดอาซาคุสะนั้นไม่มีลิฟต์ให้ขึ้นจ้าาา!! T T เลยทำให้ต้องจำใจเดินยกกระเป๋าเดินทางขึ้นบันไดไปแบบเลี่ยงไม่ได้จีๆ ฮือออ
ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่สุดท้ายก็สามารถพาพวกแม่เดินทางมาถึงโรงแรมที่พักจนได้ค่ะ และโรงแรมที่พวกนะได้เข้าพักในโตเกียวคราวนี้ก็คือที่โรงแรม Asakusa Central Hotel ค่ะ ซึ่งทำเลที่ตั้งก็สะดวกมากๆ แถมยังมีห้องพักสำหรับ 3 คน ด้วยนะ
น่าเสียดายที่นะไม่ได้ถ่ายภาพแถวหน้าโรงแรมมาเลย แต่ทุกคนสามารถเช็คพิกัดจากแผนที่และจากลิ้งก์เข้าจองใน Booking.com ที่อยู่ด้านล่างนี้ได้นะคะ
โรงแรม Asakusa Central Hotel (ข้อมูลจาก Booking.com)
เนื่องจากตอนที่ไปถึงนั้นยังไม่ถึงเวลาเข้าพัก ก็เลยตัดสินใจฝากสัมภาระต่างๆ ไว้กับทางพนักงานก่อน แต่ถึงแบบนั้น ทางพนักงานก็ให้ดำเนินการเข้าเช็คอินพร้อมจ่ายเงินก่อนได้เลย (ที่นี่จ่ายเงินตอนเช็คอินเลยนะคะ) และเมื่อถึงเวลาเข้าเช็คอินจริงก็ค่อยนำใบเสร็จมายื่นให้ทางพนักงานเพื่อรับกุญแจห้องทีหลัง
หลังจากที่ฝากสัมภาระพร้อมทำเรื่องเช็คอินล่วงหน้าแล้ว ทั้งนะและพวกแม่ๆ ต่างก็เกิดอาการหิว ก็เลยพากันไปหาอะไรทาน ซึ่งตอนนั้นก็ใกล้ได้เวลาเที่ยงตรงแล้ว
และมื้อเที่ยงที่ได้ทานไปก็คือ...
続きを読む