หลายๆ คนที่มีคนรัก มีแฟน ก็ใช้เวลาร่วมกันในวันพิเศษนี้ ส่วนคนที่ยังไม่มีแฟน ก็คงใช้เวลาอยู่กับคนที่รัก ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูงกันไปเนาะ

สำหรับตัวนะเอง ที่ผ่านมา วาเลนไทน์ทุกๆ ปี ก็จะใช้เวลาตามประสาคนโสดนะ ทั้งอยู่กับครอบครัวบ้าง เพื่อนๆ บ้าง หนักๆ เข้าก็นั่งเปิดเพลงเวิ่นเว้ออย่าง เพลงโปรดส่งใครมารักฉันที, เพลงคนไม่เข้าตา.. บลา บลา บลา (ไปหาฟังกันเอาเองเน่อ ><" แหะๆๆ) ...ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด

กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ตัวเองก็ได้เปลี่ยนสถานะจากคนโสดสนิทมาเป็นเริ่มมีคนรู้ใจเข้ามา (แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตอบตกลงอีกฝ่ายเป็นแฟนนะ ฮาาา) จนล่วงเลยมาถึงปีนี้ ก็อยู่ในสถานะที่คบหาเป็นแฟนกันโดยสมบูรณ์แล้ว

แน่นอนว่า เมื่อเป็นแฟนกันแล้ว เทศกาลแห่งความรักมาบรรจบทั้งที มันก็ต้องมีการแสดงออกแบบพิเศษกันบ้างล่ะ ซึ่งคราวนี้ก็เลยได้ตัดสินใจที่จะทำของขวัญวันวาเลนไทน์ให้คุณแฟนขึ้นมา นั่นก็คือ "การทำช็อกโกแลต" ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นที่สาวๆ จะมอบช็อกโกแลตให้ชายหนุ่มคนรักของเขานั่นเอง ^^

นะจะไม่เล่าถึงตำนานวันวาเลนไทน์หรือที่มาธรรมเนียมการให้ช็อกโกแลตของสาวญี่ปุ่นเค้านะคะ เพราะหลายๆ คนก็อาจจะทราบกันแล้ว คราวนี้เลยขอมาเม้าท์มอยตามประสาคนเขียนไดอารี่เกี่ยวกับ "ประสบการณ์การทำช็อกโกแลตวาเลนไทน์ครั้งแรก" ดีกว่านะ

เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามา ตัวเองก็นั่งคิดอยู่นานสองนานว่า "จะทำอะไรให้คุณแฟนดีน้าาา~" เพราะนี่ก็เป็นวาเลนไทน์ครั้งแรกของนะและคุณแฟนด้วย จนกระทั่ง... ในระหว่างที่นะกับคุณแฟนได้คุยกัน คุณแฟนก็พูดออกมาว่า "อยากกินช็อกโกแลตฝีมือพี่นะจังเลย~" เราก็เริ่มนึก "เอาแล้วสิ! ประสบการณ์เข้าครัวทำอาหารเราก็แทบจะไม่มี จะทำออกมาได้หรอ? T^T" แต่แล้ว...พอได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่คุณแฟนซื้อวัตถุดิบมาทำช็อกโกแลตเมื่อช่วงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งคราวนั้นตัวเองก็ได้ช่วยเป็นลูกมือด้วย เลยมีความกล้าที่จะลองทำเองดูค่ะ ^^

ส่วนตัวแล้ว ก่อนหน้าที่จะซื้อวัตถุดิบมาลองทำ ก็ได้หาคลิปสอนทำช็อกโกแลตตามยูทูปมาเปิดดูหลายคลิปอยู่ ซึ่งก็มีทั้งแบบผสมส่วนผสมใหม่เองทั้งหมด และแบบเอาช็อกโกแลตสำเร็จรูปมาประยุกต์ทำใหม่ให้ดูโอเคและมีอะไรยิ่งกว่าเดิม

หลังจากที่ได้ดูมาหลายคลิปแล้ว ส่วนตัวก็เห็นว่า ถ้าจะผสมส่วนผสมเองใหม่ทั้งหมด มันจำเป็นที่จะต้องใช้ "เนยโกโก้" หรือ "Cocoa Butter" เพราะเนื้อช็อกโกแลตที่ได้จะเนียนสวยและดูลงตัวสุดๆ แต่...เนื่องจากว่าในเมืองไทยมันหาเจ้าเนยโกโก้ได้อย่างยากยิ่งชีพ จึงตัดสินใจเลือกวิธีการที่เสี่ยงน้อยที่สุดอย่างการหาซื้อช็อกโกแลตที่ชอบมาประยุกต์ทำใหม่น่าจะเข้าท่ากว่า ^^"

ช่วงไม่กี่วันก่อนวันวาเลนไทน์จึงตัดสินใจเดินทางไปซื้อวัตถุดิบ โดยเลือกซื้อช็อกโกแลตแบบแท่งที่มีรสอร่อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างส่วนตัวจะเลือกซื้อยี่ห้อ Hershey's เพราะมันอร่อยอยู่แล้ว ซึ่งตอนที่ซื้อนะก็เลือกประยุกต์มาหน่อยโดยการซื้อทั้งแบบมิลค์และแบบดาร์กไปผสมกัน ส่วนตัวไส้ช็อกโกแลต ตอนนั้นเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่กรอบของเวลบีมา เพราะส่วนตัวชอบสตรอเบอร์รี่กรอบรสเปรี้ยวอยู่แล้ว และก็อยากรู้ว่าถ้ามันมาเป็นไส้ช็อกโกแลตแล้ว รสชาติจะออกมาเป็นอย่างไร เลยจัดไปจ้าา ส่วนที่เหลือก็พวกแม่พิมพ์ซิลิโคน ดูที่ไดโซะก็มีขายนะ 60 บาทเอง นอกนั้นก็พวกภาชนะอย่างหม้อ กระชอนใหญ่สำหรับกรองน้ำออก และชาม ซึ่งก็ควรเลือกให้ขนาดพอดีกันนะ



หลังจากที่เตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมแล้ว ก็เริ่มจากการหั่นหักช็อกโกแลตให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้สามารถละลายได้โดยง่าย จากนั้นก็นำหม้อมาใส่น้ำ โดยใส่ไม่ต้องเยอะ เอาแค่แบบว่าเวลาเอากระชอนวางลงไปแล้วน้ำไม่เอ่อล้นขึ้นมาทั้งตอนระหว่างต้มน้ำกะตอนที่น้ำกำลังเดือดปุดๆ เป็นใช้ได้ จากนั้นก็นำช็อกโกแลตที่หักเป็นชิ้นเล็กๆ มาใส่ชามแล้วนำมาวางบนกระชอนที่วางบนหม้อที่ใส่น้ำเดือดอีกที แล้วเราก็ทำการคนไปเรื่อยๆ จนมันละลายเป็นเนื้อเดียวกันจ้า



**ที่จริงคือตอนแรกจะเอามีดมาหั่นแหละ แต่มันแข็งเกิน จึงเอามือมาหักช็อกโกแลตให้เป็นชิ้นเล็กๆ แหละ ง่ายดี ><"

หลังจากที่ตัวช็อกโกแลตละลายจนหมดแล้วก็เอาออกมาวางไว้ข้างนอก พอเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาทำการประยุกต์เพิ่มไส้ล่ะ ^^



นะเลือกใช้วิธีที่ให้ตัวไส้ของมันซ่อนอยู่ด้านใน จึงได้ทำการหยอดช็อกโกแลตลงไปหลุมละ 1-2 ช้อนกลางก่อน แล้วถึงค่อยเอาสตรอเบอร์รี่กรอบ (หรือไส้อื่นๆ ที่ชื่นชอบอย่าง เยลลี่ มาร์ชเมลโล่ แมคคาเดเมีย อัลมอนด์ ฯลฯ ก็ได้) ใส่ลงไป จากนั้น ถึงค่อยหยอดช็อกโกแลตลงไปปิดทับตัวไส้ของมันอีกรอบ แล้วทำการเขย่าตัวพิมพ์ซิลิโคนเพื่อให้เนื้อช็อกโกแลตมีความนวลเนียนยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็นำไปแช่ตู้เย็น (โดยเลือกตู้เย็นระบบ no frost) จนมันแข็งตัว ก็เป็นอันเสร็จพิธี



เมื่อได้เวลาอันเป็นสมควรแล้ว ก็ทำการแกะตัวช็อกโกแลตออกจากพิมพ์ ซึ่งมันแกะง่ายมากเลยล่ะค่ะ เมื่อแกะได้แล้วก็หากล่องมาใส่แล้วนำเอาเข้าตู้เย็นอีกรอบนะ เพื่อไม่ให้ช็อกโกแลตเหลวจนเสียรูปทรงค่ะ



นะลองจับเวลาแล้ว ถ้าไม่นับขั้นตอนการเอาออกจากพิมพ์ตอนสุดท้าย ก็ใช้เวลาทำไปราวๆ ชม. กว่าๆ (ซึ่งถ้าคนที่ทำอาหารได้โปรกว่านี้ ก็คงจะใช้เวลาน้อยกว่านี้ล่ะ ^^" ) ซึ่งก็ถือว่าเป็นขนมที่ไม่ได้ใช้เวลาและขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อนเท่าใด หากเป็นในกรณีที่เอาช็อกโกแลตสำเร็จรูปมาผลิตประยุกต์อีกที

ถึงขั้นตอนจะไม่ยุ่งยากซับซ้อนเท่า แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำขึ้นมานะ และที่สำคัญคือ ได้รับฟีดแบ็คจากคุณแฟนอย่างดีเยี่ยมสุดๆ ด้วย ดีใจมากๆ เลยล่ะ ก็ถือว่าคงจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมเลยนะ

...ส่วนที่เหลือ ก็ขอรอลุ้นต่อไปว่าคุณแฟนจะทำอะไรให้เราตอบกลับในวันไวท์เดย์ล่ะ ลุ้นๆๆๆ =..=

ナナ～♪