...หากมองย้อนกลับไปมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีแล้ว
ถ้าเป็นปีก่อนหน้านี้ บอกตรงๆ รู้สึกว่าชีวิตตัวเองก็ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาตื่นเต้นมากเท่าไหร่นัก
แต่สำหรับปีนี้... ขอบอกเลยว่า นี่คือปี "โคตรพ่อโคตรแม่แห่งการเปลี่ยนแปลง" เลยว่ะ

ตั้งแต่ต้นปี...
มกราคม
จู่ๆ ก็มีบททดสอบครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องความรักเข้ามาให้ได้ฝ่าฟันกันไป แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้ง่ายดายเลย แต่ก็ยอมรับว่าคงจะเป็นแบบทดสอบที่จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

กุมภาพันธ์
หลังจากที่เจอแบบทดสอบตั้งแต่เดือนก่อนไป ก็ตั้งใจที่จะตั้งหลักและโฟกัสกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่ต่อไป โดยไม่สนใจเรื่องความรักอีกต่อไปแล้ว นอกจากครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง แต่แล้ว... ก็มีคนคนนึงที่จู่ๆ ก็เดินเข้ามาในชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัว และตัวเองก็ตัดสินใจที่จะเปิดใจรับคนคนนั้นเข้ามา จากที่ก่อนหน้านี้ตัวเองเคยเอาแต่วิ่งตามหาความรักจนล้มแผลถลอกปอกเปิกไปหมด

มีนาคม
เดือนแห่งการฉลองความสำเร็จที่ตนเองได้วุฒิปริญญาตรีใบที่ 2 มาอย่างสมใจ แถมเป็นสาขาเอกภาษาญี่ปุ่นที่ตนเองไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เรียนจบเอกนี้จริงๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องฝ่าฟันกับเรื่องเปิดสาขาเอกภาษาญี่ปุ่นจนเกือบถอดใจไปแล้ว

เมษายน
อีกหนึ่งเดือนแห่งการตัดสินใจครั้งใหญ่ เมื่อได้ตัดสินใจที่จะคบหาดูใจกับคนคนนั้น... หรือ "คุณแฟน" ที่คบอยู่ในตอนนี้นั่นเอง ...ตอนนั้นก็เล่นเอาเพื่อนๆ รอบข้างตกตะลึงและตกใจกันยกใหญ่ แหงล่ะ ก็เพราะทุกคนไม่มีใครคาดคิดว่าเรากับคุณแฟนจะคบหาดูใจกันจริงๆ ล่ะนะ แต่มันก็เป็นไปแล้วล่ะ ^^

พฤษภาคม-มิถุนายน
ขอรวบเป็น 2 เดือนเลยละกัน เพราะเรื่องที่เจอช่วงนั้นก็ไปในทางเดียวกันล่ะนะ ^^" ทั้ง 2 เดือนที่กล่าวมานี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้มีโอกาสลองทำสิ่งที่แตกต่างออกไปจากงานที่ทำตามปกติ ทั้งดูแลศิลปินที่มาในงานอีเว้นท์ใหญ่, ดูแลรับ-ส่งศิลปินตลก รวมถึงได้ลองเป็นรีพอร์ตเตอร์ภาคสนามด้วย

กรกฎาคม-สิงหาคม
เป็น 2 เดือนที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในเรื่องการท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่ได้ไปออกทริปเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนตามที่ตัวเองเคยฝันมาตลอด และในที่สุดฝันนั้นก็เป็นจริงแล้ว นอกเฉพาะการได้เห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ^^ ถึงแม้ว่าระหว่างทางจะเจออุปสรรคมาบ้าง แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี แถมทริปนี้ก็ได้ไปเที่ยวที่โอซาก้า ใส่ยูกาตะเที่ยวในเกียวโต แถมได้ลองเดินทางกลับไทยด้วยตัวเองครั้งแรกด้วย นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าจริงๆ

กันยายน
เป็นเดือนแห่งการตัดสินใจครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องงาน ซึ่งแม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกตกใจเหมือนกันที่ตัดสินใจเร็วขนาดนี้ เนื่องด้วยจากการไตร่ตรองในหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ซึ่งเป็นเหตุผลทางด้านเรื่องส่วนตัว จึงได้ตัดสินใจไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับว่าใจหายจริงๆ ; __ ;

ตุลาคม
เดือนแห่งการเริ่มต้นงานใหม่ ซึ่งก็คือที่ทำงานในปัจจุบันนี้ รวมถึงยังเริ่มเขียนบล็อกนี้เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งยอมรับว่ามีอะไรที่ต้องปรับตัวมาก โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่เปลี่ยนจากเวลาเข้างานบ่ายกลับดึกเป็นเข้างานเช้ากลับเย็น แต่ก็พอที่จะผ่านไปได้ด้วยดี แถมหลังจากที่เริ่มงานประจำได้เพียง 2 สัปดาห์ ก็ได้ไปโอกินาว่าด้วยเหตุผลเรื่องงาน ซึ่งก็นับว่าเป็นการไปต่างประเทศเพื่อไปทำงานเป็นครั้งแรกด้วย

พฤศจิกายน-ธันวาคม
เป็นช่วงเวลาที่ตัวเองมีอายุ 29 ปีเต็มแล้ว (ไวจัง ปีหน้าจะ 30 แล้ว... T^T) ซึ่งก็มาพร้อมกับภาระหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ยอมรับเลยว่า ทำงานที่นี่ได้ฝึกทักษะอะไรเยอะมากๆ โดยเฉพาะเรื่องภาษาญี่ปุ่น ประกอบกับต้องจัดสรรแบ่งเวลาว่างให้ลงตัว ไม่ว่าจะครอบครัว คุณแฟน และเพื่อนๆ อีกด้วย

ใครที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ คิดว่าปีนี้ของนะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีเรื่องต่างๆ เข้ามามากมายหรือเปล่าคะ? ^^

สำหรับตัวนะเอง อย่างที่บอกไปว่าปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับตัวเองจริงๆ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาก็ได้ให้บทเรียนอะไรมากมายเลยทีเดียว

ปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเข้ามาบ้าง แต่ที่แน่ๆ ตัวเองก็ยังอยากที่จะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและไม่สูญเปล่าล่ะนะ

ส่วนเป้าหมายในปีหน้าหรอ?

เอายังไงดีล่ะ... เรื่องงาน...ก็โอเคดีแล้วล่ะนะ เรื่องเงิน...ก็โออยู่นะ (แต่ถ้าได้เพิ่มอีกก็ดี) เรื่องความรัก...ก็สมหวังไปแล้ว เรื่องไปญี่ปุ่น...ก็ได้ไปสมใจแล้ว แถมปีนี้ได้ไป 2 รอบด้วย บวกกะที่จะได้ไปปีหน้าอีกอย่างน้อย 2 รอบ

อืมมมม... แล้วจะตั้งเป้าหมายยังไงดีล่ะ ><"

...งั้น เป้าหมายหลักในปีหน้านี้ ขอเป็นเรื่องสุขภาพดีกว่า
ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นเป้าหมายรอง เอาแบบรักษาระดับให้อยู่ในสภาพโอเคละกัน โอ้สสส!! ^^V

สวัสดีปีใหม่ Happy New Year จ้าทุกคน ^o^

ナナ～♪