TravelThai
[One day Trip] ภูเขาทอง-นิทรรศน์รัตนโกสินทร์-Kitty Cat Café ตอนที่ 1
และนี่ก็คือสถานที่แรกที่ได้ไปเที่ยวกันในวันนั้นค่ะ นั่นก็คือ "ภูเขาทอง" หรือ "พระบรมบรรพต" ที่ตั้งอยู่ในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
จริงๆ แล้ว ตัวนะเองเคยมาที่นี่แล้วประมาณ 2 ครั้ง แต่ทั้ง 2 ครั้งที่ได้ไปล้วนแล้วแต่เป็นการไปเที่ยวตอนกลางคืนในช่วงที่มีการจัดงานลอยกระทงแทบทั้งสิ้นค่ะ ครั้งนี้เลยอยากมาแบบได้เห็นวิวข้างบนตอนกลางวันบ้าง 555 เลยชักชวนคุณแฟนไปเที่ยวด้วยกันเลย ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเดินขึ้นภูเขาทองเลยซักครั้ง จึงดีลกันลงตัวค่ะ =..=
ในเรื่องของประวัติความเป็นมาที่นี่จะไม่พูดถึงนะคะ สามารถค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้เลย แต่ที่จะนำเสนอก็คือบรรยากาศตอนเดินขึ้นภูเขาทองและตอนที่อยู่ชั้นบนสุดของภูเขาทองค่ะ ^^
เมื่อมาถึงภูเขาทองแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปค่ะ ซึ่งค่าเข้าชมภูเขาทองนี้จะคิดเฉพาะชาวต่างชาติในราคา 20 บาท ส่วนคนไทยเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ระหว่างทางที่ขึ้นไปก็จะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นที่อยู่รอบๆ ฐานของตัวภูเขาทองค่ะ โดยจะมีรูปปั้นสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ ตั้งอยู่เรียงรายด้วย โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตร
หลังจากที่เดินขึ้นไปไม่นานก็จะพบกับทางเข้าร้านกาแฟ GOLDEN MOUNT. COFFEE เป็นร้านกาแฟที่อยู่ภายในภูเขาทอง บรรยากาศดีมากกกก
ถ้าใครจะเข้าไปชิมกาแฟร้านนี้ก็แนะนำให้เข้าร้านตั้งแต่ตอนขาขึ้นเลยนะคะ เนื่องจากทางขึ้นกับทางลงภูเขาทองเป็นคนละทางกัน ถ้าลงจากภูเขาทองก็จะไม่เจอแล้วค่ะ ...เตือนไว้ก่อน เดี๋ยวจะพลาดแบบเรา T w T
หลังจากนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็จะดูโล่งขึ้น และสูงขึ้น เพราะได้เดินจนพ้นช่วงฐานมาแล้วค่ะ
ไม่นานนัก เราก็เดินมาจนถึงตัวฐานเจดีย์ด้านบน ซึ่งก็จะเป็นสถานที่สำหรับการกราบไหว้ ทำบุญ และชมวิวไปในตัว ซึ่งนะและคุณแฟนก็ได้เห็นวิวกรุงเทพฯแบบ 360 องศาเลยค่ะ
และในโอกาสนี้ นะและคุณแฟนก็ได้ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงได้ทำบุญร่วมกันด้วยค่ะ
ก่อนที่จะลงจากภูเขาทอง แน่นอนว่าเราต้องไม่ลืมที่จะขึ้นไปยัง "สวรรค์" หรือ "ที่ตั้งของเจดีย์สีทอง" ด้วย
ซึ่งตรงจุดนี้ก็ได้เห็นตำแหน่งที่เขาได้ระบุไว้ว่าเป็น "สะดือเมือง" ด้วยนะคะ
การเดินทางมาที่ภูเขาทอง ถ้าเอาแบบง่ายสุดๆ ก็คือนั่งเรือคลองแสนแสบไปลงที่ท่าเรือ "ผ่านฟ้าลีลาศ" จากนั้นก็มองหาภูเขาทองแล้วเดินมาตามเส้นถนนบริพัตรเลยค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์มาลงตรงหน้าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง หรือลงตรงหน้าการบินไทย ถนนหลานหลวง แล้วเดินมายังถนนบริพัตรได้ค่ะ ตาม Google Map นี้เลย ^^
การเดินทางของนะและคุณแฟนยังไม่จบ ไว้มาต่อตอนที่ 2 คราวหน้านะคะ ><
ナナ~♪
ในเรื่องของประวัติความเป็นมาที่นี่จะไม่พูดถึงนะคะ สามารถค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้เลย แต่ที่จะนำเสนอก็คือบรรยากาศตอนเดินขึ้นภูเขาทองและตอนที่อยู่ชั้นบนสุดของภูเขาทองค่ะ ^^
เมื่อมาถึงภูเขาทองแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปค่ะ ซึ่งค่าเข้าชมภูเขาทองนี้จะคิดเฉพาะชาวต่างชาติในราคา 20 บาท ส่วนคนไทยเข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ระหว่างทางที่ขึ้นไปก็จะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่นที่อยู่รอบๆ ฐานของตัวภูเขาทองค่ะ โดยจะมีรูปปั้นสัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ ตั้งอยู่เรียงรายด้วย โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ใน 12 นักษัตร
หลังจากที่เดินขึ้นไปไม่นานก็จะพบกับทางเข้าร้านกาแฟ GOLDEN MOUNT. COFFEE เป็นร้านกาแฟที่อยู่ภายในภูเขาทอง บรรยากาศดีมากกกก
ถ้าใครจะเข้าไปชิมกาแฟร้านนี้ก็แนะนำให้เข้าร้านตั้งแต่ตอนขาขึ้นเลยนะคะ เนื่องจากทางขึ้นกับทางลงภูเขาทองเป็นคนละทางกัน ถ้าลงจากภูเขาทองก็จะไม่เจอแล้วค่ะ ...เตือนไว้ก่อน เดี๋ยวจะพลาดแบบเรา T w T
หลังจากนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็จะดูโล่งขึ้น และสูงขึ้น เพราะได้เดินจนพ้นช่วงฐานมาแล้วค่ะ
ไม่นานนัก เราก็เดินมาจนถึงตัวฐานเจดีย์ด้านบน ซึ่งก็จะเป็นสถานที่สำหรับการกราบไหว้ ทำบุญ และชมวิวไปในตัว ซึ่งนะและคุณแฟนก็ได้เห็นวิวกรุงเทพฯแบบ 360 องศาเลยค่ะ
และในโอกาสนี้ นะและคุณแฟนก็ได้ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงได้ทำบุญร่วมกันด้วยค่ะ
ก่อนที่จะลงจากภูเขาทอง แน่นอนว่าเราต้องไม่ลืมที่จะขึ้นไปยัง "สวรรค์" หรือ "ที่ตั้งของเจดีย์สีทอง" ด้วย
ซึ่งตรงจุดนี้ก็ได้เห็นตำแหน่งที่เขาได้ระบุไว้ว่าเป็น "สะดือเมือง" ด้วยนะคะ
การเดินทางมาที่ภูเขาทอง ถ้าเอาแบบง่ายสุดๆ ก็คือนั่งเรือคลองแสนแสบไปลงที่ท่าเรือ "ผ่านฟ้าลีลาศ" จากนั้นก็มองหาภูเขาทองแล้วเดินมาตามเส้นถนนบริพัตรเลยค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์มาลงตรงหน้าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง หรือลงตรงหน้าการบินไทย ถนนหลานหลวง แล้วเดินมายังถนนบริพัตรได้ค่ะ ตาม Google Map นี้เลย ^^
การเดินทางของนะและคุณแฟนยังไม่จบ ไว้มาต่อตอนที่ 2 คราวหน้านะคะ ><
ナナ~♪